ศูนย์ข่าวศรีราชา - พระภิกษุพร้อมด้วยชาวบ้านรวมตัวร้องศูนย์ดำรงธรรม ให้ช่วยไกล่เกลี่ยการก่อสร้างลานวางตู้คอนเทนเนอร์เอกชน หวั่นส่งผลกระทบต่อวัดในอนาคต เกรงกระทบที่ตั้งของวัด รวมทั้งการจราจรในอนาคตที่อาจส่งผลให้เกิดรถติดและความไม่ปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
วันนี้ (16 ส.ค.) นายกฤศณัฏฐ์ กุลสิงห์ ปลัดอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอศรีราชา ลงพื้นที่งานก่อสร้างลานตู้คอนเทนเนอร์ บริษัทพิสุทธิ์ โลจิสติกส์ จำกัด ที่อยู่ริมถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าพัทยา บริเวณหมู่ 6 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากพระภิกษุ และประชาชนว่า ที่ดิน จำนวน 50 ไร่ดังกล่าวอาจเป็นที่ดินที่มีเอกสารโดยมิชอบ
เนื่องจากที่ดินดังกล่าวสมัยก่อนเป็นพื้นที่ป่า มีความลาดชันเกิน 35 องศา ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ รวมทั้งยังมีความกังวลใจในเรื่องการก่อสร้างที่จะส่งผลกระทบต่อพระในวัดสันติคีรี และชาวบ้านในละแวกดังกล่าว และในอนาคตอาจเกิดปัญหาการจราจรบนถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของภาคตะวันออกได้ในอนาคต จึงเข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมด้วยพระวัดสันติคีรี นายวิชัย ถาวรพงศ์ สมาชิกสภาเทศบาลนครแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่เทศบาลนครแหลมฉบัง ตัวแทน ป.ป.ช. และประชาชน โดยมี นายพิสุทธิ์ พะลานุกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทพิสุทธิ์ โลจิสติกส์ จำกัด เจ้าของพื้นที่ร่วมทำการเจรจาและชี้พื้นที่แนวเขตด้วย
นายกฤศณัฏฐ์ กุลสิงห์ ปลัดอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สำหรับการเจรจาในครั้งนี้ ทางด้าน นายพิสุทธิ์ ได้นำเอกสารสิทธิในการครอบครองที่ดินมาแสดงได้ว่ามีเอกสารโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวจริง โดยแบ่งเป็น 8 แปลง และได้นำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู แต่จากการตรวจสอบของชาวบ้านที่อยู่มานานเกิดความสงสัยว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐทำการมิชอบในออกเอกสารสิทธิให้เมื่อหลายปีที่ผ่านมาก็เป็นได้ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบในภายหลัง หรือมีการฟ้องร้องต่อศาลต่อไป ส่วนในเรื่องอื่นๆ นั้น ทางบริษัทได้วางแผนโครงการไว้ 3 เฟส ในส่วนแรกการทำจุดเข้าลานตู้ จำนวน 14 ไร่ ขณะนี้ทำเสร็จแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่พบปัญหาใดๆ
ส่วนเฟสที่ 2 กำลังดำเนินการเทปูนทำพื้นวางตู้ ซึ่งส่วนนี้กระทบต่อแนวเขตของทางวัด จึงขอให้มีการก่อสร้างกันพื้นที่ให้ห่างจากเขตวัดประมาณ 30 เมตร โดยทำเป็นแนวกั้น พร้อมทั้งปลูกต้นไม้ตลอดแนวเป็นกำแพงกั้นเสียง และกันดินถล่ม ส่วนเฟสที่ 3 จะมีโครงการสร้างโกดัง จำนวน 12 ไร่นั้น ยังไม่มีการก่อสร้าง ในส่วนนี้มีการออกแบบแล้ว ซึ่งต่อไปนี้จะต้องปรึกษาหารือร่วมกับชาวบ้านก่อนการก่อสร้างด้วยทุกครั้ง ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีกประมาณ 8 ไร่ อยู่ด้านในสุด ทางบริษัทได้กันไว้ ยังไม่มีโครงการที่จะทำในขณะนี้ โดยทางบริษัทแจ้งว่า กันส่วนนี้ไว้ใช้ประโยชน์ทางด้านศาสนา หรือเป็นที่ที่ให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ชาวบ้านขอให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงขึ้นในภายภาคหน้า
จากข้อสรุปชาวบ้านได้เซ็นยอมรับการก่อสร้างในเฟสที่ 1 เพียงเฟสเดียวเท่านั้น ในเฟสที่ 2 ชาวบ้านจะรอดูว่าทางบริษัทจะสร้างตามแบบที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ก่อนจะเซ็นยอมรับในส่วนเฟสที่ 2 อีกครั้ง ส่วนเฟสที่ 3 ต้องมาร่วมกันออกแบบ หรือวางแผนการก่อสร้างร่วมกัน ซึ่งอาจจะต้องสร้างแนวกั้นเสียงเพื่อไม่ให้ทางวัดได้รับการรบกวนจากการประกอบการ ซึ่งในวันที่ 24 ส.ค.นี้ จะมีการรังวัดตรวจสอบหลักเขตพื้นที่โฉนดที่เหลือต่อไป
ส่วนในเรื่องของการจราจร ทางลานวางตู้ได้ออกแบบมาตรการความปลอดภัยไว้ 4 ข้อแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางบนถนนสุขุมวิทอย่างแน่นอน ซึ่งทำให้กลุ่มเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่เข้ามาร่วมการเจรจาไกล่เกลี่ยต่างพอใจ และแยกย้ายกันกลับ