นครสวรรค์ - เครือข่ายกลุ่มยูเอฟโอโพสต์เฟซฯ ประกาศเตรียมเปิดค่ายลูกเสือฯ เขากะลาแถลงข่าวเย็นพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) แถมกำชับให้ไลฟ์สดทุกเพจ-ทุกคน ป้องกันถูกบิดเบือน ขณะที่ศิษย์สำนักปฏิบัติธรรมฯ เชื่อมนุษย์ต่างดาว-เอเลียนมีจริง
ความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่คลิปกลุ่มบุคคลทำพิธีเข้าทรงทำนายดวงชะตาโลก อ้างอัญเชิญเทพมนุษย์ต่างดาว ชื่อพลูโต ลงสิงสถิต ก่อนจะมีการระบุว่าในปี 2020 จะเกิดภัยพิบัติรุนแรงถึงขั้นล้างโลก จนทำให้มนุษย์และสัตว์อีกหลายล้านชีวิตตายลง
ต่อมามีการตรวจสอบจุดที่ตั้งสถานที่ถ่ายคลิป พบว่าเกิดขึ้นภายในสถานปฏิบัติธรรมเขากะลา ต.พระนอน อ.เมืองนครสวรรค์ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหารได้เข้าตรวจสอบพิกัดพื้นที่ ตลอดจนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) แต่ไม่พบตัวนายเจริญ แร่เพชร ที่มีการระบุว่าเป็นผู้ครอบครองพื้นที่-เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมฯ ดังกล่าวนั้น
ล่าสุดได้มีการโพสต์ประกาศข้อความผ่านเฟซบุ๊กกลุ่มสาธารณะ “สมาพันธ์จักรวาลสากล เพื่อการยกระดับจิตมนุษย์โลก” จะมีการแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมเลี้ยงอาหารสมาชิก-สื่อมวลชน บริเวณสนามหญ้าค่ายลูกเสือฯ ในเย็นวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) ซึ่งเดิมเคยกำหนดเป็นวันจัดงานรวมพลคนเอเลียน นั่งสมาธิดูจานบิน โดยมีการแจ้งให้ผู้ที่ไลฟ์สดทุกเพจ ทุกคน ให้เตรียมไลฟ์สดขณะที่มีการแถลงข่าวด้วย กำชับให้ถ่ายทั้งนักข่าวและกล้องนักข่าวด้วยป้องกันการบิดเบือนข่าว
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับบุคคลที่เข้าไปปฏิบัติธรรมที่สำนักดังกล่าว บางคนระบุว่ามนุษย์ต่างดาวและจานบินยูเอฟโอมาเยือนที่เขาแห่งนี้บ่อยครั้งจริง แต่ต้องเป็นคนมีบุญและมีจิตสมาธิขั้นสูงเท่านั้นจึงจะได้พบเห็น
นายประสิทธิ์ เรียนมงคล ผู้ดูแลสำนักแทนนายเจริญ กล่าวว่า ตนและลูกศิษย์ในฐานะผู้ปฏิบัติธรรมในสถานที่แห่งนี้ยืนยันว่าเหตุการณ์ค้นพบจานบินจากมนุษย์ต่างดาวนั้นเกิดขึ้นจริงบนสถานที่แห่งนี้ เพราะที่ผ่านมานายเจริญ บุคคลที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้นั้น ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของยานอวกาศมนุษย์ต่างดาวเป็นคนแรก ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ต้องมาปฏิบัติธรรมยังสถานที่แห่งนี้ โดยใช้หลักการทำสมาธิในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ด้วยวิธีการสแกนกรรมให้คนที่เดินทางมาปฏิบัติธรรม ใช้ธรรมะในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวหรือนายอวกาศ ซึ่งนายเจริญสามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้
ส่วนนายศรัณรงกรณ์ หรือว่ากร ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเดินทางมาปฏิบัติธรรมบนยอดเขากะลาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวผ่านธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ จึงต้องอยู่ปฏิบัติภารกิจในที่แห่งนี้ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีพลังงานสามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ และในไม่กี่เดือนนี้จะเกิดภัยพิบัติกับประเทศไทยและคนไทย แต่มนุษย์ต่างดาวจะสามารถพาคนกลุ่มหนึ่งรอดพ้นจากความตายได้ด้วยยานอวกาศที่สามารถมาขึ้นยานผ่านมิติของพลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้บริเวณเขากะลาแห่งนี้ ซึ่งมิติจักรวาลนี้สามารถสัมผัสได้ยังสถานที่แห่งนี้เท่านั้น และเป็นแหล่งพลังงานที่สัมผัสได้ด้วยตัวเอง เพียงแต่สัมผัสได้ไม่เหมือนกัน บางคนสัมผัสได้ บางคนสัมผัสไม่ได้
“เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นจะมียานอวกาศ ซึ่งเอเลียนเฝ้าอยู่ 3 ลำ เดินทางมารับคนที่สามารถมีจิตสื่อสารไปนอกมิติได้ โดยจุดที่ยานสามารถจอดได้มี 3 จุดบริเวณรอบเขากะลาแห่งนี้ ซึ่งจะมีคนที่สามารถเดินทางมาขึ้นยานได้ที่นี่ ผมจึงต้องปฏิบัติภารกิจนี้รอช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์หากเกิดภัยพิบัติขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของพลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เพียงแต่ต้องสื่อสารผ่านจิตที่มีธรรมะเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อเท่านั้น โดยใช้หลักธรรมชาตินั่นเอง”
ทั้งนี้ นายศรัณรงกรณ์ยังได้พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูจุดที่เขาเชื่อว่า ยานอวกาศสามารถมาลงจอดได้ และมีหินแหล่งพลังงานอยู่กระจายทั่วเชิงเขากะลา ทั้งยังสาธิตวิธีการทะลุออกนอกมิติด้วยการใช้หิน ลูกปัด ลูกแก้ว ในการเปิดประตูมิติเหมือนภาพยนตร์ ขณะที่บริเวณรอบภูเขากะลาก็มีรถไถมาปรับถนน ปรับพื้นที่เส้นทางขึ้นยอดเขา เพื่อเตรียมจัดงานกิจกรรมบางอย่างตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม นายเฉลียว ภู่จำรูญ นายก อบต.เขาพระนอน บอกว่า ส่วนใหญ่คนในพื้นที่ไม่มีใครเชื่อ-ไม่มีใครเห็นมนุษย์ต่างดาว หรือจานบินอะไรเลย คนที่เชื่อคือคนต่างจังหวัดและเป็นคนมีชื่อเสียงทั้งสิ้น ส่วนตัวเคยขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อไปรับมอบห้องน้ำ ก็เห็นคนที่เชื่อมองก้อนเมฆบอกว่าสามารถสื่อสารกันได้ เชื่อว่ามีเทพมาโปรด แต่ตนก็มองไม่เห็น พยายามนั่งดูนั่งฟังก็มองไม่เห็นเหมือนเขา ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลไม่สามารถไปว่ากันได้
สำหรับสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสองลูกประกบ และมีสำนักปฏิบัติธรรมอยู่ตรงกลาง รถยนต์สามารถขึ้นไปได้ ไม่มีการสนับสนุนงบประมาณอะไรจากส่วนราชการ พื้นที่ตั้งของสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้เป็นพื้นที่ภูเขา เดิมเป็นสำนักสงฆ์ มีพระอยู่บนเขา แต่ต่อมาไม่มีพระสงฆ์อยู่ เนื่องจากไม่ได้ขึ้นตรงกับวัดคีรีสวรรค์ จึงมีคนขึ้นไปอยู่แทนพระสงฆ์ และดูแลเขาที่มีพระองค์ใหญ่ ซึ่งมีกุฏิพระอยู่ แต่เขาทั้งสองลูกนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ เพราะพื้นที่อยู่บนเขา
“อบต.พระนอนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็เห็นว่าหากมีกิจกรรมสำคัญเจ้าสำนักจะขนเครื่องเสียง เครื่องปั่นไฟขึ้นไปด้านบนภูเขา ดึกๆ จะมีการนั่งสมาธิกันและกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นนายแพทย์ เรียนสูงๆ คนมีความรู้ทั้งสิ้น และส่วนใหญ่เดินทางมาจาก กทม.เป็นหลัก”
ชาวบ้านในพื้นที่หลายราย ต่างระบุไม่เคยพบเห็นจานบินของมนุษย์ต่างดาวแต่อย่างใด มีเพียงแค่เคยเจอลูกไฟสีแดงลอยอยู่บนยอดเขาเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น และไม่ทราบว่าเป็นลูกไฟอะไร แต่ไม่น่าจะใช่จานบินของมนุษย์ต่างดาวอย่างแน่นอน ส่วนคนที่มาสำนักปฏิบัติธรรมฯ แล้วบอกว่าเห็นจานบินหรือมนุษย์ต่างดาวนั้น ก็เป็นคนที่อื่นหมด ขับรถดีๆ มากันทั้งนั้น