xs
xsm
sm
md
lg

เสี่ยงขาดน้ำ !! กรมชลประทานระบุปริมาณน้ำดิบในชลบุรี ปีนี้เหลือแค่ 40 %

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เสียงขาดน้ำ !! กรมชลประทานระบุปริมาณน้ำดิบในชลบุรี ปีนี้เหลือแค่ 40 % ชี้หากฝนไม่ตกตามฤดูกาลมีปัญหาแน่ ขณะที่ประปาพัทยา วอนประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ใช้น้ำอย่างประหยัด



วันนี้ ( 15 ส.ค.) นายนิพันธ์ พู่ศรี ผู้จัดการโครงการชลประทาน จ.ชลบุรี ได้กล่าวในที่ประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม เดอะกรีนพาร์ค รีสอร์ท ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถึงสถานการณ์น้ำดิบใน จ.ชลบุรี ปี 2562 ว่าค่อนข้างประสบปัญหาหลังปริมาณน้ำในอ่างหลักมีจำนวนลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง


และจากการแจ้งข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ระบุว่าพบปริมาณฝนเพียง 5-10 % ทำให้บริษัท อีสเวอร์เตอร์ จำกัด (มหาชน) จะต้องเร่งผันน้ำจาก จ.ฉะเชิงเทรา ที่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และลุ่มน้ำบางปะกง เข้ามาเสริมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของ จ.ชลบุรี ขณะที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง เมืองพัทยา ก็จตะต้องมีการวางแผนใช้น้ำอย่างรัดกุมเพื่อลดภาวะการขาดแคลน


ขณะที่ นายสุทัศน์ นุชปาน ผู้จัดการสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค พัทยา เผยว่าปัจจุบันเมืองพัทยา ใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปาเพื่อแจกจ่ายให้กับภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและครัวเรือน วันละ 2.4 แสน ลบ.ม.หรือกว่า 70 ลบ.ม.ต่อปี


โดยน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปามาจาก 5 อ่างเก็บน้ำหลัก คือ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน ,ห้วยสะพาน ,ห้วยขุนจิต ,หนองกลางดง และชากนอก ขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 17.01 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 40 % ของความจุทั้งหมดในปริมาณ 39.9 ล้าน ลบ.ม.


 
“ ถือว่าปริมาณน้ำในปีนี้น้อยกว่าปีที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก ด้วยปีที่แล้วมีน้ำดิบจาก 5 อ่างฯ หลักถึง 27 ล้าน ลบ.ม. จึงถือว่าแม้จะมีน้ำเต็มอ่างฯ ก็ไม่สามารถแจกจ่ายน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอ ขณะที่ฝนก็ยังไม่ตกต้องตามฤดูกาลจึงเป็นเรื่องที่น่าวิตกว่าอาจเกิดปัญหาน้ำขาดแคลนได้ ”


อย่างไรก็ตามปัจจุบันการประปาพัทยา ได้ทำ MOU กับ บริษัท อีสวอร์เตอร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อต่อเชื่อมน้ำจากอ่างเก็บน้ำปะแสร์ จ.จันทบุรี ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 215 ลบ.ม.จากนั้นได้ต่อท่อเชื่อมมายังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และหนองปลาไหล ใน จ.ระยอง เพื่อส่งต่อเข้าสู่ระบบโรงกรองของเมืองพัทยา ที่อ่างเก็บน้ำหนองกลางดง


แต่หากฝนยังคงขาดแคลนก็อาจเกิดปัญหาได้ จึงต้องเร่งหาน้ำดิบจากหลายแหล่งเข้ามาเสริมอีก อาทิ การซื้อน้ำจาก บริษัท อีสวอร์เตอร์ ฯ , ซื้อน้ำประปาจากการประปาสัตหีบ และการขอผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำบางพระ


นายสุทัศน์ ยังกล่าวอีกว่าขณะนี้การประปาพัทยา ได้วางมาตรการใช้น้ำอย่างรัดกุม เพราะหากฝนไม่ตกลงมาตามฤดูกาลที่คาดว่าอาจจะมีน้ำเข้าอ่างน กว่า 5-6 ลบ.ม.ก็จะทำให้ในปี 2563 ต้องประสบปัญหาการขาดแคลนไม่มากก็น้อย โดยมาตรการแรกที่จะดำเนินการ คือ 1.การขอสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อนำน้ำฝนมาเติมในอ่างทั้ง 5 แห่งให้เพียงพอ 2.การเร่งสูบน้ำดิบจากคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตมายังอ่างเก็บน้ำบางพระเพื่อผันต่อสู่เมืองพัทยา


3.การติดตามสถานการณ์สภาวะเรื่องของพายุฝนและมรสุมจากกรมอุตุนิยมอย่างใกล้ชิด 4.การประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนให้รู้จักการใช้น้ำอย่างประหยัด และ 5.ในช่วงระหว่างวันที่ 15-30 ก.ย.นี้ อาจจะต้องมีการลดแรงดันน้ำที่แจกจ่ายให้กับย่านที่พักอาศัยในช่วง เวลา 22.00-04.00 น. ซึ่งจะสามารถประหยัดน้ำไปในหลายหมื่น ลบ.ม.


สุดท้ายคือการวางระบบท่อส่งน้ำเพิ่มจากจังหวัดระยองที่มีปริมาณน้ำล้นอ่างไหลออกสู่ทะเลเพื่อลดสภาวะการขาดแคลนในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ







กำลังโหลดความคิดเห็น