xs
xsm
sm
md
lg

รอเหยื่อแจ้งฟันอาญา!รองผู้ว่าฯประชุมด่วน สางปมพระเสพเมถุนน้องต่างแม่-โยมคนสนิท

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุตรดิตถ์ – รองผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เรียกประชุมด่วน สางปม “พระเสพเมถุนน้องสาวต่างแม่” เบื้องต้นรู้ตัวพระฉาวที่ต้องโทษปาราชิก-บวชอีกไม่ได้แล้ว พร้อมรอผู้เสียหายแจ้งความอาญาต่อ ขณะที่เหยื่อกามยันมีคนพร้อมแฉอีกเพียบ

วันนี้(15 ส.ค.) นายพิภัช ประจันเขตต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบงานสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เชิญนายธาตรี บุญมาก นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ , พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ , ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.อุตรดิตถ์ และผู้แทนศูนย์ดำรงธรรม จ.อุตรดิตถ์ ประชุมร่วมที่ห้องประชุมตรอนตรีสินธ์ ชั้น 5 ศาลาลกลาง จ.อุตรดิตถ์

เพื่อหารือกรณี น.ส.ชุติฯ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ชาว อ.แม่สลวย จ.เชียงราย น้องสาวต่างมารดาของอดีตพระสงฆ์เจ้าของสำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ออกมาแฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอดีตพระสงฆ์ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายต่างมารดา ด้วยการเสพเมถุนกับตัวเองตั้งแต่ปี 2559 และพระพี่ชายได้ทำการลาสิกขาไปแล้วนั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.อุตรดิตถ์ แจ้งว่า ทราบแล้วว่าเป็นพระชื่ออะไร ประจำอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมที่ไหน และเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา พระสงฆ์รูปนี้ได้ทำการลาสิกขาแล้วที่วัดอรัญญิการาม ต.ท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ เหตุจากการเสพเมถุน มีความผิดขั้นร้ายแรงหรือปาราชิก ไม่สามารถกลับมาบวชเป็นพระได้อีกตลอดชีวิต

นายพิภัช กล่าวว่า กำชับให้นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.อุตรดิตถ์ เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เนื่องจากทราบแล้วว่า อดีตพระสงฆ์ดังกล่าวประจำสำนักปฏิบัติธรรมที่ไหน มีมูลนิธิแห่งหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จึงต้องให้หลายหน่วยงานบูรณาการร่วมกันเพื่อเข้าไปตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ของเอกชน

อย่างไรก็ตามหลังจากพระสงฆ์รูปนี้ลาสิกขาไปแล้ว คงไม่สามารถเอาผิดทางวินัยสงฆ์ได้อีกแล้ว ส่วนเรื่องคดีอาญาจะต้องให้ผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ แต่เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ซึ่งจะรายงานเบื้องต้นการตรวจสอบเรื่องนี้ให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดทราบโดยด่วน

“เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.อุตรดิตถ์ แจ้งว่า เมื่อพระรูปนี้ทำการลาสิกขา จากความผิดร้ายแร้งหรือปาราชิก ก็จะส่งประวัติไปยังเจ้าคณะปกครองสงฆ์ทั่วประเทศไทย อีกทั้งนำประวัติส่งไปยังกองทะเบียนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อเก็บประวัติไว้ หากมีการตรวจสอบประวัติบุคคลก่อนอุปสมบทก็สามารถตรวจสอบได้ เพื่อไม่ให้อดีตพระสงฆ์รูปนี้กลับมาบวช ไม่ให้ไปทำการสิ่งที่ไม่เหมาะสมและทำลายศาสนาอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะเร่งดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว เพราะอยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วประเทศ” นายพิภัช กล่าว

ด้าน น.ส.ชุติฯ กล่าวว่า มีลูกศิษย์อดีตของพระพี่ชายหลายคนโทรศัพท์มาให้กำลังใจ และพร้อมที่จะออกมาแฉถึงพฤติกรรมของพระพี่ชาย ซึ่งบางคนก็ถูกข่มขู่จากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองหน่วยงานหนึ่งว่า ไม่ให้ยุ่งกับเรื่องนี้ หากยุ่งจะถูกทำร้ายได้

อย่างไรก็ตามยืนยันว่า จะต่อสู้กับเรื่องนี้จนถึงที่สุด แม้วันนี้จะตกอยู่ในอันตรายจากบุคคลในมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็ตาม เพราะถ้าหากไม่ต่อสู้คนกลุ่มนี้ก็จะไปสร้างความเสียหายให้กับคนอื่นอีก และขอยืนยันว่า การออกมาต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ แต่ไม่ต้องการให้อดีตพระพี่ชายและมูลนิธิแห่งนี้ ใช้ความเลื่อมใสศรัทราของประชาชนหากินอีกต่อไป และไม่ต้องการให้อดีตพระพี่ชายกลับมาบวชเป็นพระอีก เนื่องจากก่อนหน้านี้ทราบมาว่า หากเรื่องนี้เงียบก็จะกลับมาบวชอีกในพื้นที่เชียงใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น