นครปฐม - เพื่อนบ้านเข้าให้ปากคำตำรวจ เร่งเอาผิดลูกชายและสะใภ้โหด ทำร้ายยายลักษณ์ แม่บังเกิดเกล้า เผยเคยปล่อยให้ยายลักษณ์ คลานไปกินน้ำในถ้วยน้ำให้หมาของเพื่อนบ้าน หลายคนรับทำใจไม่ได้ ส่งภาพเข้าช่วยเหลือย้ำต่อสื่อถึงความบอบช้ำของหญิงชราวัย 81 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี ยายทองลักษณ์ พาหา อายุ 81 ปี ที่อาศัยอยู่ที่บ้านเอื้ออาทร พุทธมณฑลสาย 5 ถูกลูกชาย และลูกสะใภ้ทำร้ายร่างกายและปล่อยให้ทรมานจนเพื่อนบ้านทนไม่ไหว ต้องประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองไร่ขิง อ.สามพราน เข้ามาให้การช่วยเหลือ โดยมีบาดแผลหลายแห่ง และมีร่างกายที่บอบช้ำ ใบหน้าปูดบวม
โดยช่วงเย็นของวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม น.ส.ธิมาพร ปั้นประดับ เจ้าหน้าที่ป้องกันการทำความรุนแรงในครอบครัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครปฐม และทีมงานได้มาพร้อมกับเพื่อนบ้าน เพื่อมาให้ปากคำและแจ้งความเอาความผิดต่อบุตรชายและลูกสะใภ้ของยายลักษณ์ ซึ่งมีพยาน 2 ราย ที่พร้อมมาให้ข้อมูลต่อทางพนักงานสอบสวน
เบื้องต้น มีความผิดเข้าข่าย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำในครอบครัว พ.ศ.2550 โดยบอกว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากนัก เนื่องจากต้องดูอาการของยายลักษณ์ เป็นหลัก และต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาไทราบก่อน โดยในทางคดีอาญานั้นต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะมีการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อเอาความผิดต่อผู้ก่อเหตุต่อไป
ขณะที่ นางพวงเพชร เพชรแสนค้า อายุ 59 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า ตนเองสงสารยายลักษณ์ ซึ่งล่าสุดมีการถูกทำร้ายมากขึ้น โดยวันแม่ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดได้ยินเสียงยายลักษณ์ ถูกทุบตี ทำร้าย ซึ่งเมื่อแอบไปดูพบว่า ที่ปากมีเลือดออกมา เวลาป้อนข้าวเห็นคราบเลือดอยู่ยิ่งตกใจ เพราะพบว่าบาดแผลเดิมนั้นมีมากขึ้น และมีแผลใหม่เกิดขึ้นอีกด้วย
โดยที่สะเทือนใจ คือ มีคนข้างห้องพักของยายลักษณ์ มาบอกว่า เคยเห็นว่า ยายลักษณ์ ลากสังขารตัวเองคลานไปที่หน้าห้องเพื่อนบ้าน ซึ่งเอาถ้วยใส่น้ำเพื่อใส่ให้สุนัขกิน และยายลักษณ์ ได้คลานมาเลียน้ำในถ้วยดังกล่าว กระทั่งเพื่อนบ้านต้องอาศัยช่วงเวลาที่ 2 ผัวเมียไม่อยู่บ้านเข้าไปดูแลกันบ่อยครั้ง ก่อนจะมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือเมื่อเช้าวานนี้
ขณะที่ น.ส.อรทัย หุณทนเสรี ผู้จัดการบ้านเอื้ออาทร พุทธมณสาย 5 บอกว่า เรื่องดังกล่าวทางนิติกรของหมู่บ้านไม่ได้นิ่งนอนใจ ปกติจะมีการประสานกับ อสม.ของเทศบาลเมืองไร่ขิง ตลอดเวลา ซึ่งทราบเรื่องดังกล่าวมาบ้าง แต่วานนี้เมื่อได้เข้าไปตรวจสอบร่วมกับชาวบ้าน พบว่า ยายลักษณ์ นั้นมีบาดแผลเยอะมากกว่าทุกครั้ง จากนั้นได้นำตัวส่งโรงพยาบาล และเมื่อมีข่าวออกมา บุตรชายได้มีการโทร.ติดต่อเข้ามาหา และแจ้งไม่ชัดเจนกับเรื่องดังกล่าว บอกเพียงว่าไม่ค่อยอยู่บ้าน และยายลักษณ์ มีการเดินไปไหนไม่ได้และต้องคลานไปมา จนมาพบว่าล่าสุดได้ตกบันำดไปแล้ว จนมีบาดแผล และบอกว่ารักแม่แต่ยังไม่ค่อยมีเวลาดูแล
หลังจากที่มีการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้ว ทางกลุ่มเพื่อนบ้านได้นำภาพของการเช้าช่วยเหลือยายลักษณ์ มาให้สื่อได้ดูเหตุการณ์ช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองไร่ขิง ไปดูยายลักษณ์ โดยพบว่า นอนอยู่ที่หน้าห้องพักตั้งแต่ช่วงเช้าโดยนอนแน่นิ่งอยู่ลำพัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้านได้น้ำและอาหารไปป้อนให้ ก่อนจะพากันส่งขึ้นรถพยาบาล เพื่อยืนยันว่าสภาพของยายลักษณ์ นั้นถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจริงๆ
