วิจารณ์ยับ ตม.ปอยเปต เข้มคนไทยประทับตราเข้าออกชายแดน โขกค่าธรรมเนียม-ล่าช้า

กรณีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้เริ่มทำการตรวจประทับตราบุคคลสัญชาติไทย ที่ใช้หนังสือเดินทางและหนังสือผ่านแดน Border Pass ที่เข้าออกราชอาณาจักรกัมพูชา โดยจะต้องรอรับการตรวจประทับตราจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อคนไทยที่ทำงานในฝั่งปอยเปต และนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าไปยังกรุงปอยเปต ที่ต้องใช้เวลารอนานในการประทับตรา

เนื่องจากมีช่องให้บริการเพียง 2 ช่อง จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ รวมทั้งการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตรา 50, 70, 100, 200 และ 300 บาท เพื่ออำนวยความสะดวก จนทำให้มีนักท่องเที่ยวและชาวไทยติดค้างอยู่เป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุด วันนี้ (14 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ ว่า กรณีดังกล่าวทำให้ตนเองต้องทำหนังสือรายงานด่วนที่สุดไปยัง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยมีข้อตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า หากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชา หากเข้าไปแค่บริเวณหน้าด่าน หรือประมาณ 800 เมตร ก่อนถึงวงเวียนปอยเปต ไม่จำเป็นต้องประทับตราหนังสือเดินทาง

แต่หลังจากที่กัมพูชาเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้คนไทยจำนวนมากได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน อ.อรัญประเทศ ได้จัดให้มีการประชุมร่วมกับทางการกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหา ที่ห้องประชุม ตม.สระแก้ว โดยมีหน่วยงานฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายอำเภออรัญประเทศ ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระแก้ว เขต 3 ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ผู้กำกับการ สภ.คลองลึก และนายด่านศุลกากรอรัญประเทศ

ส่วนฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงปอยเปต ผู้กำกับการ ตม.ปอยเปต และเจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชา

โดยได้ผลสรุปการประชุม คือ 1.การดำเนินการประทับตราของ ตม.ปอยเปต ได้รับข้อสั่งการจากกรมตำรวจกัมพูชา เนื่องจากมีการตรวจพบว่าคนไทยเข้าไปในพื้นที่ชั้นในโดยไม่มีการประทับตราในหนังสือเดินทางและหนังสือผ่านแดน หรือ Border Pass เป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ตม.ปอยเปต จะเพิ่มช่องประทับตรา ณ ด่านผ่านแดนถาวรเป็น 4 ช่อง และสามารถเข้าประทับตราได้ที่บริเวณวงเวียนปอยเปตอีก 5 ช่องบริการ

2.สำหรับพนักงานคนไทยที่ทำงานในเมืองปอยเปตนั้น ตม.ปอยเปต จะเปิดช่องบริการให้โดยเฉพาะ และสามารถเข้าไปทำงานได้ก่อนแล้วค่อยกลับมาประทับตราได้ในภายหลัง ซึ่งพนักงานไทยสามารถประทับตรา 1 ครั้ง มีอายุได้ 7 วัน กรณีเป็น Border Pass และ 14 วัน กรณีเป็นพาสปอร์ต

"ตม.ปอยเปต ยืนยันว่า ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น หากพบมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมประชาชนหรือนักท่องเที่ยว สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ในทันที ส่วนฝ่ายไทยเอง ทางการกัมพูชาได้ขอให้เราเพิ่มการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง เพื่อให้ผู้ข้ามแดนเดินทางได้รวดเร็วขึ้น และหากมีปัญหาใดๆ จะมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกันต่อไป" นายสวนิต กล่าว

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนักท่องเที่ยวและชาวไทยที่เดินทางข้ามชายแดนจากไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับกรณีที่มีการโพสต์ข้อความเรื่องปัญหา การเรียกเก็บเงินค่าอำนวยความสะดวกต่างๆ บริเวณหน้าด่านและวงเวียนแกรนด์ไดมอนด์ รวมทั้งการต่อแถวเข้าคิวยาวและต้องรอนานกว่าเวลา 2 ชั่วโมงนั้น เป็นเรื่องจริง เช่นเดียวกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในอัตรา 70 หรือ 100 บาท ของ ตม.กัมพูชา ก็เกิดขึ้นจริงที่บริเวณด้านหน้ากาสิโนแกรนด์ไดมอนด์

“หากไม่มีบัตรพนักงานจะถูกเรียกเก็บกันตรงนั้นเลย ขณะที่กลุ่มคนระดับ VIP จ่าย 200 บาท หรือ VIP สุดๆ สามารถลัดคิวโดยใช้พาสปอร์ตไปปั๊มให้เลย ไม่ต้องรอ จึงขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาแก้ไขด่วย” นักท่องเที่ยว กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ทางการกัมพูชาเข้มงวดในเรื่องการประทับตราเข้าออก ส่งผลให้คนไทยที่มีภูมิลำเนาใน จ.สระแก้ว ซึ่งสามารถทำและใช้หนังสือข้ามแดน หรือ Border Pass ในการเดินทางได้ แห่เดินทางไปทำ Border Pass ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดสระแก้ว เป็นจำนวนมาก ขณะที่ในส่วนของบ่อนกาสิโน และบริษัทห้างร้านที่คนไทยเดินทางข้ามไปทำงานในฝั่งปอยเปต ได้มีการทำหนังสือสรุปขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับคนไทย หลัง ตม.ปอยเปต เพิ่มมาตรการต่างๆ

เช่น ทุกบริษัทที่มีพนักงานคนไทยมาทำงาน จะต้องส่งรายชื่อของคนไทยทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ เพื่อความสะดวกในการปั๊มพาสปอร์ตและบอเดอร์พาส เข้าออกด่าน หรือพนักงานจะต้องติดบัตรพนักงานด้วยทุกครั้ง ทั้งขาเข้าประทับตราเข้าออกด่าน

หรือท่านใดที่ใช้พาสปอร์ตประทับตราเข้าฝั่งกัมพูชาสามารถใช้ได้ 14 วัน ถ้าพนักงานใช้พาสปอร์ต และได้ทำวีซ่าทำงาน 1 เดือน 3 เดือน และ 1 ปี จะต้องประทับตราออกภายในวันสิ้นสุดวีซ่า ถ้าเกินวันกำหนดของวีซ่า ทางเจ้าหน้าที่จะปรับวันละ 10 ดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่เกิน