xs
xsm
sm
md
lg

เขื่อนลำปาวประกาศปรับลดการส่งน้ำเพื่อการเกษตร หลังมีน้ำเข้าอ่างน้อย วอนใช้ประหยัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กาฬสินธุ์ - เขื่อนลำปาวประกาศปรับลดส่งน้ำสำหรับการเกษตร หลังฝนตกน้อยทิ้งช่วงนาน ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างน้อยกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีน้ำไหลเข้าอ่างเพียง 21 ล้าน ลบ.ม. ร้องขอให้เกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัดและแบ่งปัน

จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ส่งน้ำอุปโภค บริโภค และหล่อเลี้ยงพืชผลการเกษตรในหลายพื้นที่ พบว่า จากสภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้น้ำในเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด นายพงศ์ศักดิ์ ณ ศร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว เปิดเผยว่า ทางโครงการได้ออกประกาศเรื่องสถานการณ์น้ำและการปรับลดส่งน้ำสำหรับการปลูกพืชฤดูฝน 2562 โดยได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน และกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตามที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวได้ทำการส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรในเขตชลประทาน สำหรับการปลูกพืชฤดูฝน 2562 ตามมติการประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นมา เฉลี่ยวันละประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม.โดยเน้นในเรื่องการส่งน้ำเสริมฝนและใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และแบ่งปัน

นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันในอ่างเก็บน้ำลำปาวมีปริมาณน้ำในอ่างอยู่ที่ 410 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์ จากความจุกักเก็บ 1,890 ล้าน ลบ.ม. โดยมีน้ำใช้การได้เพียง 310 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้อย ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากฝนตกน้อยและทิ้งช่วงนานทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างน้อยกว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างมาก

โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างรวม 21.48 ล้าน ลบ.ม.จากค่าเฉลี่ยของทุกปีอยู่ที่ 277.30 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 7.75 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งหากสถานการณ์ยังไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่หรือไม่มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2562 อาจจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำปาวมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง 2562/2563 ได้

นายพงศ์ศักดิ์ ระบุอีกว่า ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ทางโครงการมีความจำเป็นต้องปรับลดการส่งน้ำเข้าระบบส่งน้ำตามลำดับ ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มี และหากปริมาณน้ำในอ่างเหลือประมาณ 400 ล้าน ลบ.ม.ทางโครงการจะหยุดส่งน้ำเข้าระบบส่งน้ำทางการเกษตร จะมีเพียงการระบายน้ำเพื่อการประปา อุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จึงขอให้ประชาชนและเกษตรกรร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และแบ่งปันตามปริมาณน้ำที่ส่งเข้าระบบต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น