xs
xsm
sm
md
lg

หนุนอนุรักษ์อาคารเก่าศุลกากรหนองคาย ศิลปะโคโลเนียน-ฝรั่งเศสอายุเกือบ 70ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

อาคารศุลกสถาน หรืออาคารสำนักงานศุลกากรหนองคาย อายุเก่าแก่กว่า 69 ปี
หนองคาย-นายด่านศุลกากรหนองคาย หนุนกรมธนารักษ์อนุรักษ์อาคารเก่าศุลกากรหนองคาย ที่ตลาดท่าเสด็จไว้ให้ลูกหลาน แทนให้เอกชนเช่าทำธุรกิจ เหตุเป็นอาคารเก่าแก่อายุกว่า 69 ปี สร้างสไตล์โคโลเนียน ศิลปะฝรั่งเศส
นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย
หลังจากที่กรมธนารักษ์ มีโครงการที่จะบริหารจัดการอาคารเก่าแก่ให้ภาคเอกชนเช่าในหลายพื้นที่นั้น อาคารที่เคยเป็นอาคารสำนักงานศุลกากรหนองคาย เองก็เป็นหนึ่งในจำนวนดังกล่าว โดยอาคารเก่าแก่ในพื้นที่ จ.หนองคาย เป็นอาคารสไตล์โคโลเนียน ศิลปะฝรั่งเศส ทรงปั้นหยา 2 ชั้น สีเหลือง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2493 ในสมัยรัชกาลที่ 5 บนเนื้อที่ 2 งาน 87 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ถนนท่าด่าน ตลาดท่าเสด็จ หรือตลาดอินโดจีน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย

ใช้เป็นอาคารสำนักงานในอดีต ใช้ชื่อว่า “ศุลกสถาน” โดยชั้นบนเป็นที่ทำการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ส่วนชั้นล่างเป็นที่ทำการด่านศุลกากรหนองคาย แต่ปัจจุบันทั้งสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 และด่านศุลกากรหนองคาย ได้ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ จึงต้องคืนอาคารหลังนี้ให้กับกรมธนารักษ์ เมื่อปีพ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีการใช้ประโยชน์จากอาคารหลังนี้ จึงเป็นอาคารว่างเปล่า


นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่าการจัดเก็บภาษีในอดีต ได้มีการก่อตั้งกรมศุลกากรขึ้น และในปีนี้กรมศุลกากรมีอายุ 147 ปี ด่านหนองคายถูกตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2462 หลังก่อตั้งกรมศุลกากร 47 ปี ทำให้ขณะนี้ด่านหนองคายมีอายุ 100 ปี จุดผ่านแดนสำคัญของหนองคายคือที่ท่าเสด็จ มีคนไทย-ลาว เดินทางเข้าออก ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่สรรพากรเก็บภาษีให้ และได้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาประจำการ ต่อมาจึงมีการก่อตั้งสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 เมื่อปีพ.ศ. 2482

เพื่อควบคุมด่านหนองคายและด่านในภาคอีสาน จากที่เคยใช้บ้านไม้ริมแม่น้ำโขงเป็นสถานที่ปฏิบัติราชการเก็บภาษี เมื่อการค้าขายดีขึ้นเก็บภาษีได้มากขึ้น ทำให้เริ่มแออัด และได้ก่อสร้างอาคารราชพัสดุหลังนี้ขึ้นและใช้ปฏิบัติงานเรื่อยมา โดยไม่มีการดัดแปลงสภาพแต่อย่างใด จนเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองด่านได้ย้ายออกไปเพื่อแก้ปัญหาความแออัดของตลาดท่าเสด็จ เมื่อกรมศุลกากรไม่ได้ใช้อาคารราชพัสดุนี้แล้วได้ส่งมอบคืนให้กรมธนารักษ์บริหารจัดการพื้นที่ต่อ

ส่วนตึกหลังนี้ตนได้พูดคุยกับธนารักษ์จังหวัดหนองคาย ทราบว่าด้วยความที่เป็นตึกเก่าแก่ ทางกรมธนารักษ์จะบริหารจัดการตามระเบียบ ข้อกฎหมาย ของกรมธนารักษ์ต่อไป ซึ่งต้องเป็นการอนุรักษ์ตึกเก่าไว้ให้ลูกหลาน สร้างองค์ความรู้ อาจทำเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยกรมธนารักษ์มีแผนบริหารจัดการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องจะให้เอกชนมาเช่าอาคารทำร้านค้า เบื้องต้นคงไม่ใช่แน่ น่าจะเป็นเรื่องของการใช้ตึกนี้เพื่อสร้างคุณค่าให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติมากกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น