ร้อยเอ็ด-ครูโร่แจ้งตำรวจ หลังอดีตนักเรียนอันธพาล พาพวกมาดักทำร้าย ท้าตีเพื่อนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด แต่นักเรียนไม่ยอมออกไป ถึงขั้นขว้างระเบิดปิงปองข่มขู่ จี้ประสานตำรวจเรียกตัวเด็กอันธพาลมาอบรม หยุดก้าวร้าว
วันนี้ (9ส.ค.62) ร้อยตำรวจเอกลัพธวิทย์ สิงห์สา ร้อยเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุ ว่ามีกลุ่มวัยรุ่น 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ขับมาขว้างระเบิดปิงปองเข้าที่หน้าศาลาที่พัก ข้างหน้าป้ายวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด จึงเดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ 4 นาย เพื่อตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุด้านหน้าป้ายวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด พบรอยไหม้จากการระเบิดบนผิวถนนหน้าศาลาที่พัก แต่ไม่มีเด็กนักเรียน ที่เลิกเรียนออกมายืนรอเดินทางกลับบ้าน ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นนายธนาเดช ชาญประไพ อาจารย์ฝ่ายนายทะเบียน ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตนักเรียนชายชั้น ม.1 ที่ขาดเรียนจนทางวิทยาลัย เรียกผู้ปกครองมาพบและแจ้งคัดชื่อออก เป็นผู้ก่อเหตุ
ขณะเดียวกันได้สอบสวนนักเรียนชายคนหนึ่งอายุ 12 ปี ซึ่งเรียนชั้นเดียวกับวัยรุ่นที่ถูกคัดชื่อออก เล่าว่าเหตุเกิดก่อนช่วงเปิดเทอม ผู้ก่อเหตุได้มาขอซื้อขอบล้อรถจักรยานยนต์ ที่เปลี่ยนออกไม่ได้ใช้ ในราคา 500 บาท แต่ไม่ยอมจ่ายเงิน และตนตามทวงหนี้ไม่ให้ จนเกิดการท้าทายกัน และทักมาว่าวันนี้จะมาขอเคลียร์ปัญหากันตอนเลิกเรียน ที่หน้าวิทยาลัยฯ แต่พอถึงเวลา ตนเห็นผู้ก่อเหตุมากันหลายคน จึงไม่ออกไปพบ และไม่ออกจากรั้ววิทยาลัยฯ กลัวว่าจะถูกรุมทำร้าย
หลังจากตนไม่ยอมออกไปพบ วัยรุ่นกลุ่มนี้ก็ขี่รถจักรยานยนต์ มาวนเวียนหลายรอบ เมื่อเห็นว่าตนไม่ยอมออกไปพบ จึงขว้างระเบิดปิงปองเสียงดังสนั่น เพื่อข่มขู่ก่อนจะหลบหนีไป จึงแจ้งให้อาจารย์ทราบ และแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พบว่าผู้เสียหายเป็นเยาวชน จึงแจ้งให้อาจารย์แจ้งให้เด็กและผู้ปกครอง ให้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พบว่าหลังขว้างระเบิดปิงปองแล้ว ยังขี่รถวนเวียน มาดักทำร้ายเพื่อทวงหนี้อยู่หลายรอบ บันทึกภาพนำไปประกอบการแจ้งความ ติดตามมือก่อเหตุมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป พร้อมกับประสานผู้ปกครองมารับเด็กถูกข่มขู่ ที่วิทยาลัยกลับบ้านพักเพื่อความปลอดภัยและแจ้งความกับพนักงานสอบสวนต่อไปด้วย
ทั้งนี้อาจารย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ไม่ว่าผู้ปกครองจะเอาเรื่องหรือไม่ก็ตาม ทางวิทยาลัยได้ให้รายละเอียดผู้ก่อเหตุให้กับพนักงานสอบสวนไปแล้ว เพราะวัยรุ่นคนดังกล่าว มีนิสัยชอบก่อเหตุทะเลาะวิวาทในวิทยาลัยบ่อยครั้ง จนถูกคัดชื่อออก จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัว มาว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอีกต่อไป
