กาฬสินธุ์ - ป.ป.ท.เขต 4 เตรียมชงบอร์ดตั้งอนุกรรมการไต่สวนคดียักยอกเงิน รพ.กมลาไสย หายกว่า 5 ล้านบาท 13 ส.ค.นี้ พร้อมเดินหน้าสอบพบใครเอี่ยวฟันไม่เลี้ยง เล็งสอบโยงความผิดปกติการสั่งซื้อยาที่ทำให้ชาวบ้านขาดยาจนต้องยืมกันกิน
จากกรณีชาวบ้านใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ลงชื่อร้องเรียนให้ย้าย นพ.ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่านายแพทย์สาธารณสุขไม่ให้สั่งซื้อยาทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถสั่งซื้อยามาแจกจ่ายให้ผู้ป่วยได้ครบ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน และโรคไต ทาง รพ.กมลาไสยเองก็ยอมรับว่าขาดยาและสั่งซื้อยาไม่ได้จริง เหตุเป็นหนี้กับทางบริษัทยาหลายล้านบาท และเอกสารบิลสั่งซื้อยาถูกสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอายัดไปตรวจสอบนานแล้วแต่ยังไม่เสร็จ ส่งผลให้ประชาชนต้องยืมยากันกิน
กระทั่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขตสุขภาพที่ 7 ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาการขาดยา โดยได้เร่งดำเนินการจัดสรรยามาไว้ที่โรงพยาบาลกมลไสย เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ป่วยได้ตามปกติแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (9 ส.ค.) นายทองสุข ณ พล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ป.ป.ท.เขต 4 เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ หลัง ผอ.โรงพยาบาลเข้าแจ้งความดำเนินคดี กรณีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยักยอกเงิน เบื้องต้นพบว่ามีความผิดปกติตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2560 รวมเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท และพบผู้กระทำความผิดคนเดียว คือ พนักงานของโรงพยาบาล มีหน้าที่จัดเก็บใบเสร็จการจ่ายยาวิธีการจะปลอมแปลงใบเสร็จขึ้นมาใหม่เพื่อยักยอกเงินส่วนต่างไปใช้
โดยทาง ป.ป.ท.เขต 4 จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดผู้บริหารในวันอังคารที่ 13 สิงหาคมนี้ เพื่อพิจารณาตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน หากบอร์ดอนุมัติ ทาง ป.ป.ท.เขต 4 ก็จะเดินหน้าไต่สวนเรื่องนี้ทันที ซึ่งคณะอนุกรรมจะมาจากบุคคลภายใน ป.ป.ท.เขต 4 และบุคคลภายนอกด้วย โดยจะตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเกี่ยวโยงไปถึงใครอีกหรือไม่ หากพบใครเข้ามาเกี่ยวข้องจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนต่ออัยการต่อไป
ส่วนกรณีมีการตรวจสอบพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาของโรงพยาบาลกมลไสย จนเอกสารถูกอายัดไว้ตรวจสอบที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ปัญหาการสั่งซื้อยาไม่ได้ของโรงพยาบาล และจ่ายยาไม่ครบให้กับผู้ป่วยตามที่เป็นข่าวนั้น ทางอนุกรรมการจะมีการสืบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบเอกสารว่าทั้ง 2 เรื่องนี้มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ หากพบมีใครเกี่ยวข้องและมีหลักฐานการกระทำผิดก็จะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน อย่างไรก็ตามกรณีการสั่งซื้อยาหากตรวจสอบแล้วไม่มีพบความเชื่อมโยงกันกับการยักยอกเงิน จะมีการแยกการตรวจสอบเป็นอีก 1 คดีและจะดำเนินการตรวจสอบทันที
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวภายในโรงพยาบาลกมลไสยระบุว่า โรงพยาบาลกมลไสยมีปัญหาความไม่โปร่งใสส่อทุจริตหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหายักยอกเงินของโรงพยาบาล ปัญหาระบบการจัดซื้อ จัดจ้าง และปัญหาความผิดปกติของการสั่งซื้อยาจนทำให้โรงพยาบาลกมลไสยเป็นหนี้สูงถึง 80 ล้านบาท และที่สำคัญส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชนและผู้ป่วย เช่นการสั่งซื้อยาไม่ได้จนนำไปสู่การจ่ายยาไม่ครบและจำนวนน้อย ทำให้ผู้ป่วยต้องไปยืมยากันกิน เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่วนใหญ่ต้องการให้ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด และควรจะย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีปัญหาทั้งหมดออกนอกพื้นที่ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยจะได้กล้าให้ข้อมูล การตรวจสอบเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
