xs
xsm
sm
md
lg

โรงสีโวยแหลก อคส.เบี้ยวค่าเช่า 467 ล้าน แถมทิ้งข้าวนอกโกดังจนเน่าเสีย 30 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สิงโตทองไรซ์” บ.ร่วมโครงการจำนำข้าวรัฐบาลแฉแหลก อคส.ค้างค่าเช่าโกดังกว่า 467 ล้านบาท แถมไม่ต่อสัญญาเช่าให้เรียบร้อย ล่าสุดส่อเบี้ยวอีก 19 ล้าน ซัดปล่อยปละละเลย ทิ้งข้าวไว้นอกโกดังตากแดดตากฝน 4 ปีจนเน่าเสียหาย 30 ล้าน

วานนี้ (6 ส.ค.) เวลา 14.00 น. ที่บริษัท สิงโตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตำบลธำมรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย อายุ 49 ปี เจ้าของโกดังให้เช่าเก็บสินค้าในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้แถลงว่า อคส.ผิดสัญญาเช่าคลังสินค้าและค่าแรงกรรมกร เนื่องจาก อคส. กระทรวงพาณิชย์ อนุมัติให้เช่าคลังสินค้าของบริษัท สิงโตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นมา เพื่อเก็บข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลมาเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้าของบริษัท จำนวน 18 หลัง จนทางบริษัทได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชรถึง 2 ครั้งว่า อคส.ยังคงค้างค่าเช่าคลัง และมี 2 โกดังที่ยังไม่ได้ทำสัญญาเช่าและไม่ต่อท้ายสัญญากรณีนำเข้ามาเก็บเพิ่มกับทางบริษัท รวมแล้วที่ทำสัญญาเช่ายังคงค้างอยู่ 350,508,928 บาท และในส่วนที่ยังไม่จัดทำสัญญาเช่าค้างอยู่อีก 117,115,057 บาท จึงสรุปว่ายังคงค้างค่าเช่าคลังสินค้าทั้งหมดรวม 467,623,985 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า ได้เชิญบริษัทเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารองค์การคลังสินค้าเพื่อหารือแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่องค์การคลังสินค้าชั้น 9 ที่ประชุมสรุประงับการระบายข้าวที่ยังคงค้างอยู่ในโกดังของบริษัท สิงโตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และในส่วนที่ไม่มีสัญญาเช่าคลังและบันทึกต่อท้ายสัญญาจนกว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหา

ที่ประชุมยังได้ของดเว้นโกดังเก็บข้าวหลังที่ 2 ซึ่งมีข้าวอยู่จำนวน 16,000 ตัน เป็นข้าวที่คุณภาพอย่างดีสามารถระบายเป็นข้าวชนิดดีทั่วไปได้ ทางบริษัทเห็นว่าเป็นประโยชน์ของรัฐและหากเก็บไว้ข้าวก็จะเสื่อมคุณภาพ จึงยอมให้ อคส.นำข้าวออกไปทางไหนก็ได้ แต่ อคส.จะต้องทำบันทึกต่อท้ายสัญญาและชำระค่าเช่าคลังที่ค้างจ่ายทั้งหมดของโกดังหลังที่ 2 นี้ให้กับบริษัทจำนวน 19 ล้านบาท และได้ผู้ประมูลไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา จนขณะนี้ล่วงเลยมาแล้ว 15 วันปรากฏว่าทางบริษัทยังคงไร้การติดต่อจาก อคส.ซึ่งคาดว่าจะถูกเบี้ยวเหมือนกับที่ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าโกดังคลังสินค้าทั้งหมดให้ทางบริษัทฯ ซึ่งต่างกับ อ.ต.ก.ที่มีสัญญาแบบเดียวกันแต่ อ.ต.ก.ชำระค่าเช่าให้กับคลังสินค้าทั้งหมดโดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

นายมนต์ชัยกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นความเดือดร้อนของภาคเอกชนที่หน่วยงานภาครัฐมีพฤติกรรมไม่จ่ายค่าเช่าคลังสินค้า ไม่ทำสัญญาค่าโกดัง ไม่ต่อท้ายสัญญาเช่าในสัญญาหลักของโกดังที่นำเข้ามาเก็บเพิ่ม และยังมีลูกเล่นหลอกล่อให้บริษัทยินยอมปล่อยข้าวในโกดังที่ 2 โดยอ้างจะจ่ายค่าเช่าและต่อท้ายสัญญาให้สำหรับโกดังหลังนี้ จนปัจจุบันก็ยังคงเพิกเฉย ขณะที่รักษาการผู้อำนวยการ อคส.คนปัจจุบันไม่ยอมทำหน้าที่ ปล่อยให้ปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้แก่องค์กรและหน่วยงานภาคเอกชน เพียงรักษาการตำแหน่งเพื่อรอเกษียณอายุราชการเท่านั้น

นายมนต์ชัยยังได้พาผู้สื่อข่าวไปพิสูจน์กองข้าวเน่าซึ่งเป็นข้าวที่อยู่ในความดูแลของ อคส.ที่ทาง อคส.ไม่นำเข้าโกดัง ส่งผลให้ข้าวเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ถูกปล่อยทิ้งให้ตากแดดตากลมตากฝนนานถึง 4 ปี ข้าวดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของรัฐ และทางบริษัทฯ ได้ออกหนังสือหลายฉบับแจ้งให้ทราบและมาแก้ไขนำเข้าเก็บในโกดังและรักษาคุณภาพข้าว แต่เพิกเฉยจนข้าวเสียหายมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

นายมนต์ชัยกล่าวด้วยว่า จากกรณีดังกล่าวทางบริษัท สิงโตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากภาครัฐในยุคที่ผ่านมา ในวันนี้จึงฝากความหวังไว้กับรัฐบาลใหม่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และฝากถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ช่วยเหลือภาคเอกชนและมาตรวจสอบพิสูจน์ได้ที่โกดังคลังสินค้าของบริษัท และขอให้ช่วยนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบกองข้าวเน่าที่ถูกทิ้งไว้ให้เสียหายว่าเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใด เพราะรัฐเป็นผู้เสียหาย ส่วนทางโรงสีก็ได้รับผลกระทบทางชื่อเสียงเนื่องจากกองข้าวดังกล่าวนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าโรงสีทำข้าวของรัฐเน่าเสียหาย จึงฝากไปยัง สตง.ให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อนำคนผิดไปลงโทษให้ได้







กำลังโหลดความคิดเห็น