ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ EOD พร้อมสุนัขตำรวจเข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย หลังพบวัตถุต้องสงสัยที่สถานีรถไฟหัวหิน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ EOD ตัดสินใจยิงปืนอัดแรงดันสูงจักรยานยนต์ทั้ง 3 คัน จากนั้นเข้าตรวจสอบ โล่งอกไม่พบวัตถุระเบิด
จากกรณีพบจักรยานยนต์ต้องสงสัย จำนวน 3 คัน จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถสถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงต้องปิดกั้นพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟหัวหินอย่างเด็ดขาด และสั่งหยุดขบวนรถไฟที่จะเข้าสถานีรถไฟหัวหินด้วย เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ EOD เข้าตรวจสอบให้ชัดเจน โดยเหตุเกิดตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (4 ส.ค.) และมีเสียงดังเกิดขึ้น จำนวน 3 ครั้ง ซึ่งคาดว่าเป็นเสียงของปืนทำลายวัตถุต้องสงสัย สร้างความหวั่นวิตกให้ประชาชนชาวหัวหินเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงเดียวกับเหตุการณ์ระเบิด 2 จุด ในเมืองหัวหินเมื่อ 2 ปีก่อน
ล่าสุด รถจักรยายนต์ต้องสงสัยทั้ง 3 คัน จอดติดกัน คือ ฮอนด้าเวฟสีแดงดำหมายเลขทะเบียน 1 กข 8964 ปัตตานี ยามาฮ่า มีโอสีฟ้า หมายเลขทะเบียน ขกค 35 นราธิวาส และยามาฮ่า ฟีโน สีดำทอง หมายเลขทะเบียน 1 กท 8202 สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ EOD ได้นำสุนัขตำรวจเข้าดมกลิ่นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย พบว่า สุนัขนั่งลงที่รถ ซึ่งตามยุทธวิธีของสุนัขตำรวจจะนั่งลงเมื่อพบวัตถุระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่ EOD ตัดสินใจดำเนินการขั้นต่อไป คือ การยิงทำลายรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยทั้ง 3 คัน ด้วยปืนอัดแรงดันสูง ซึ่งเป็นที่มาของเสียงดังที่เกิดขึ้น 3 ครั้ง
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบไม่พบวัตถุระเบิด จึงได้ทำการคืนพื้นที่ และเปิดการจราจรได้ในเวลาประมาณ 15.30 น. ขณะนี้อยู่ระหว่างรอตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้หญิงนำรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามีโอ สีฟ้า ทะเบียนยะลา มาจอดตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน คาดว่าน่าจะถูกนำมาจอดภายหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายธนน์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน ขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนก ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สถานการณ์ในอำเภอหัวหินขณะนี้มีความปลอดภัย มีการดูแลรักษาความปลอดภัยจากหน่วยงาน ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นความพร้อมของทุกหน่วย