xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เคยมีอาถรรพ์!เปิดกรณีศึกษาชุมชนพุทธ-คริสต์ลำปาง เผาสุสานเดียวกัน-แบ่งพื้นที่ให้ฝังด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ลำปาง – ตามส่องชุมชนพุทธ-คริสต์ลำปาง..อยู่กันมานาน ตายแล้วเผาในป่าช้าเดียวกัน แถมแบ่งพื้นที่ให้หากต้องการฝังศพญาติ-ช่วยงานตั้งแต่ต้นจนจบ ยืนยันไม่เคยเจออาถรรพ์


นายนงค์ชัย วงศ์ษา อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแม่ปุง
“บ้านแม่ปุง หมู่ที่ 7 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง” ถือเป็นชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งในลำปาง ที่คนในชุมชนนับถือศาสนาต่างกัน โดยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แต่มีบางส่วนที่นับถือศาสนาคริสต์ แต่เมื่อมีผู้เสียชีวิต คนในชุมชนก็เปิดให้ฌาปนกิจผู้ตายทั้ง 2 ศาสนา ในสุสานของหมู่บ้าน

นายนงค์ชัย วงศ์ษา อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแม่ปุง หมู่ที่ 7 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ เปิดเผยว่า บ้านแม่ปุงส่วนมากนับถือศาสนาพุทธ และก็มีคนนับถือศาสนาคริสต์บางส่วน ชาวบ้านที่นี่ไม่มีการแบ่งแยก ชุมชนมีการจัดการที่ดี ทำให้ไม่เกิดปัญหาหรือขัดแย้งด้านความเชื่อ ทุกคนในชุมชนช่วยเหลือกันหมด

โดยที่ผ่านมามีก็ชาวบ้านที่นับถือศาสนาคริสต์เมื่อเสียชีวิตแล้วหากญาติมีความประสงค์จะนำมาเผาที่สุสานของหมู่บ้านก็สามารถเผาได้ เพราะถือว่าสุสานเป็นของส่วนรวม และชาวบ้านยังมีการแบ่งพื้นที่สุสานของหมู่บ้านให้ชาวบ้านที่นับถือศาสนาคริสต์ เผื่อว่าทางญาติจะนำศพไปฝังอีกด้วย

“ที่ผ่านมาที่สุสานของหมู่บ้านก็มีการเผาศพคนที่นับถือต่างศาสนาไปแล้วจำนวนมากแต่ก็ไม่เคยเกิดอาถรรพ์ใดๆกับหมู่บ้าน แต่กลับมีทำให้ชาวบ้านมีความรัก ความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากกว่าเดิม”

นายพินิจ สายคำ อายุ 77 ปี ประธานคณะธรรมกิจคริสตจักรปรุงธรรม บ้านแม่ปุง หมู่ที่ 7 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่นี่อยู่กันแบบพี่น้อง หากโบสถ์ วัด หรือชุมชน มีงานก็จะช่วยเหลือกันทั้งหมด ไม่แบ่งแยก เมื่อมีการจัดพิธีศพที่โบสถ์คริสต์ชาวบ้านในหมู่บ้านก็จะมาร่วมกันจนแทบเต็มโบสถ์ และหากคนที่นับถือศาสนาพุทธมีงานบำเพ็ญกุศลศพ ชาวคริสต์ก็จะไปร่วมงานเช่นเดียวกัน เราอยู่กันแบบนี้มาโดยตลอดไม่เคยมีปัญหา การจัดพิธิศพก็เป็นไปตามของเชื่อของครอบครัวผู้ตายแต่ละรายไป สำหรับผู้นับถือศาสนาคริสต์ที่เสียชีวิตบางคนก็ฝัง บางคนก็เผา ขึ้นอยู่กับญาติๆ

“หากจะเผาก็เผาที่สุสานในหมู่บ้านรวมกับผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ จึงอยากจะฝากถึงทุกคนว่าสุดท้ายเมื่อเกิดจากดินก็กลับไปสู่ดินเหมือนกันหมด ขอให้รักกัน เอื้ออาทรต่อกัน”
กำลังโหลดความคิดเห็น