จันทบุรี - เหยื่อนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหดเมืองจันทบุรี บุกโรงพักจี้ตำรวจแจ้งความคืบหน้าการดำเนินคดีและยึดทรัพย์นายทุนที่ถูกเอาผิด หลังเคยถูก "บิ๊กโจ๊ก" ลุยจับแต่เรื่องเงียบ ซ้ำมีข่าวลือผู้กว้างขวางทุ่ม 100 ล้านบาทวิ่งเต้นช่วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 ส.ค.) ผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อเงินกู้นอกระบบใน จ.จันทบุรี กว่า 10 ราย ได้รวมตัวกันเดินทางไปยัง สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อนายทุนเงินกู้จาก พ.ต.ต.ชยพัทธ์ สุขสมบูรณ์ สว.(สอบสวน)
หลังจากเมื่อวันที่ 22 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบ.สตม.) ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว บุกเข้าปิดล้อมและจับกุม รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ แต่ผ่านมาได้ครึ่งปี คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้า
โดยเฉพาะการดำเนินคดีต่อเจ้าของเขียงหมูในพื้นที่ที่เปิดรับจำนองที่ดินในอัตราดอกเบี้ยโหด หลังมีกระแสข่าวลือสะพัดว่า มีผู้กว้างขวางทุ่มเงินวิ่งเต้นผ่านทั้งตำรวจ และอัยการเป็นเงินตั้งแต่ 10-100 ล้านบาท เพื่อช่วยให้พ้นจากความผิด
พ.ต.ต.ชยพัทธ์ สุขสมบูรณ์ สว.(สอบสวน) ผู้รับผิดชอบคดีได้ออกมาชี้แจงกับเหยื่อนายทุนเงินกู้นอกระบบถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดี และการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่ออายัดหุ้น ของ นางสุรจิต กอร์ปไพบูลย์ นายทุนเงินกู้คู่กรณีถูกยื่นฟ้องต่อศาล
“ส่วนกระแสข่าวลือว่ามีผู้กว้างขวางช่วยวิ่งเต้นจ่ายเงินกว่า 10 ล้าน ถึง 100 ล้านให้แก่ตำรวจและอัยการ เพื่อล้มคดีนั้น พนักงานสอบสวนขอยืนว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญตามยุทธการขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ” พ.ต.ต.ชยพัทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เหยื่อนายทุนเงินกู้ จำนวน 10 คน จากทั้งหมด 29 คน ที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีเกิดความพอใจ แต่ก็ยังมีเหยื่อเงินกู้นอกระบบอีกส่วนหนึ่งที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนในเรื่องการทำมาหากิน และยังต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เนื่องจากนายทุนคู่กรณียังไม่ได้ถูกดำเนินคดี และยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
