ศูนย์ข่าวศรีราชา - รวบคาบ้านคนร้ายจี้ชิง จยย.สาวใหญ่วัย 63 ปี ใน อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ก่อนทำร้ายด้วยหมวกกันน็อก หลัง ตร.ได้กลิ่นดอดซ่อนตัวที่บ้านพักใน อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ขณะที่ญาติไม่เชื่อมีพฤติกรรมโหดร้ายฆ่าปาดคอ วอนสังคมให้อภัย
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tip Chuleeporn ได้โพสต์ภาพคนร้ายที่เกือบจะใช้มีดปาดคอพี่สาวเพื่อชิงรถจักรยานยนต์ แต่โชคดีที่พี่สาวร้องขอชีวิตและให้คนร้ายใช้วิธีอื่นในการฆ่าให้ตายแทน จนกระทั่งคนร้ายเห็นว่าพี่สาวเป็นคนพิการจึงใช้หมวกกันน็อกฟาดที่ศีรษะประมาณ 6-7 ครั้ง ก่อนจะทำเป็นแกล้งตายจนคนร้ายตายใจขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังได้ขอความร่วมมือผู้คนในโลกสังคมออนไลน์ให้ช่วยกันแชร์ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับตัวได้โดยเร็วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ว่า สามารถติดตามจับกุมตัว นายศักดิ์นรินทร์ สุภพร อายุ 25 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวได้แล้วที่บ้านพักใน อ.นายายอาม จ.จันทบุรี และได้นำตัวกลับมาที่โรงพัก เพื่อให้ พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผู้กำกับการ สภ.หนองใหญ่ ทำการสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวขึ้นรถตู้เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจภูธร จ.ชลบุรี เพื่อให้ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ทำการขยายผลต่อไป
เบื้องต้น นายศักดิ์นรินทร์ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้หลอกให้นางชูศรี แซ่โค้ว อายุ 63 ปี หรือยายจ๊อต ซึ่งเป็นผู้เสียหายและมีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างคิวแยกหนองใหญ่ ให้ไปส่งที่สวนปาล์มใน ต.ห้างสูง อ.หนองใหญ่ ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ก่อนจะใช้มีดจี้และทำร้ายด้วยการใช้หมวกกันน็อกตีจนได้รับบาดเจ็บและหลบหนีไปที่ จ.จันทบุรี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังทราบข่าวการถูกจับกุมทำให้บรรดาญาติของผู้ต้องหาพากันมาเฝ้ารอที่ สภ.หนองใหญ่ เพื่อขอประกันตัวท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเครียด หลังคนในครอบครัวถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมที่โหดร้าย โดยเฉพาะวิธีการฆ่าปาดคอเหยื่อที่มีข้อมูลระบุว่า เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว
โดย น.ส.จิราภา สุภพร อายุ 40 ปี พี่สาวของผู้ต้องหา เผยว่า ข้อมูลในโลกสังคมออนไลน์ที่ระบุว่า น้องชาย มีพฤติกรรมการฆ่าคนด้วยการฆ่าปาดคอมาแล้วหลายครั้งถือเป็นการลงข้อมูลที่เกินจากความเป็นจริง เพราะจากการสอบถามน้องชาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาเสพติดจนทำให้ไม่มีสติ และยังบอกอีกว่าในวันเกิดเหตุได้ขอยืมรถจักรยานยนต์จากผู้เสียหาย เนื่องจากอยากกลับบ้านที่ จ.จันทบุรี แต่ผู้เสียหายขัดขืนจึงใช้หมวกกันน็อกตีไปแค่เพียง 2 ครั้งเท่านั้น และขณะนี้รู้สึกสำนึกผิดแล้ว และวอนให้สังคมให้อภัยต่อการกระทำดังกล่าว