อ่างทอง - ชาวนาอ่างทองครวญ ฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำแต้นข้าวแห้งเหี่ยวยืนต้นรอความตาย พื้นที่นาอยู่ปลายคลอง สูบน้ำขึ้นมาไม่ทันต้นคลอง เผยลงทุนปลูกข้าวไปหลายหมื่นบาท ต้องรอฟ้าฝน หมดปัญญา ต้องทำใจ
วันนี้( 31 ก.ค.) นาย ชิน สกุลพงษ์ อายุ 78 ปี ชาวนา หมู่ที่ 3 ตำบลสาวร้องไห้ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เล่าให้ฟังด้วยความระทมว่า หลังเกิดสภาวะ ฝนทิ้งช่วงไม่ตกต้องตามฤดูกาล ส่งผลทำให้ต้นข้าวในนาเช่าจำนวน 19 ไร่ ต้องยืนต้นในพื้นนาดินแตกระแหง ขาดน้ำรอวันแห้งเหี่ยวตาย โดยทางชลประทานได้ทำการปล่อยน้ำมาให้การช่วยเหลือรอบละ 4 วัน แต่สุดท้ายไม่สามารถสูบน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวในแปลงนา
เนื่องจากพื้นที่นาตั้งอยู่ปลายคลอง ชาวนาที่อยู่ต้นคลองสูบน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนาจนไม่เหลือมาถึงแปลงนาของตนเอง ถึงสูบได้ก็เพียงแค่เล็กน้อยไม่พอต่อการหล่อเลี้ยงต้นข้าว น้ำที่สูบไหลลงในร่องดินเหือดหายไป จำต้องปล่อยให้ต้นข้างที่มีอายุได้ 1 เดือน ต้องยืนต้นรอความตาย ทั้งที่เสียเงินลงทุนค่าเช่านา ค่าต้นกล้า และซื้อน้ำมันมาเติมเครื่องสูบน้ำเข้านาไปแล้วหลายหมื่นบาท ต้องรอฟ้าฝน หมดปัญญาช่วยต้องทำใจ
นายชิน เล่าอีกว่า ตนเองได้เช่าพื้นที่ทำนาเพาะปลูกข้าว จำนวน19 ไร่ 1 งาน ในหมู่ที่ 8 ตำบลสาวร้องไห้ อำเภอวิเศษชัยชาญ โดยเสียค่าเช่าปีละ 15,000 บาท ลงทุนปลูกข้าวทำนาไปแล้ว 17,000 บาท ซึ่งได้ทำการหว่านข้าวจนขึ้นเป็นต้นอ่อนมีอายุได้ 1 เดือน แต่ช่วงนี้กระทบภัยแล้ง ไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว จำต้องปล่อยให้ต้นข้าวในผืนนายืนต้นตาย
โดยที่ผ่านมาใช้ท่อสูบน้ำจากคลองชลประทานเข้าที่นา แต่เนื่องจากพื้นที่นาของตนเองอยู่ปลายคลอง น้ำในคลองในช่วงที่ชลประทานปล่อยมาในจำนวนรอบละ4 วัน นั้นถูกชาวนาที่อยู่ต้นคลองสูบเอาไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวจนแทบหมด ตนเองหมดปัญญา เพราะฝนทิ้งช่วงไม่ยอมตกต้องตามฤดูกาล น้ำก็ไม่มีมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว จำต้องปล่อยให้ต้นข้าวในนายืนต้นตายกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังหวังว่าคงจะมีฝนตกลงในพื้นที่ ทำให้มีน้ำหล่อเลี้ยงในการปลูกข้าวทำนาต่อชีวิตให้กับชาวนากันต่อไป