ศูนย์ข่าวศรีราชา - ยายวัยแค่ 55 ปี เลี้ยงหลานวัย 10 ปี พิการทางสมองเป็นผู้ป่วยติดเตียง ของเทศบาลนครแหลมฉบัง วอนสังคมช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค หลังต้องเก็บเศษอาหารจากกองขยะที่ชาวบ้านทิ้งมาทำเป็นอาหารให้คนในครอบครัวอีก 9 ชีวิตได้กินกัน
ผู้สื่อข่าวได้ทราบเรื่องราวจากการลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงของ นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ว่า ที่บ้านเลขที่ 168/4 หมุ่ 8 ชุมชนซากยายจีน ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา มี ด.ช.ภูมิติยะ สว่างศรี อายุ 10 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง พิการทางสมอง ในความดูแลของเทศบาลนครแหลมฉบัง ที่เจ้าหน้าที่จะต้องไปตรวจเยี่ยมเป็นประจำทุกเดือน
โดยมี น.ส.น้ำหวาน พันณรงค์ อายุ 55 ปี ผู้เป็นยายเป็นผู้ดูแลในห้องพักขนาดประมาณ 6 คูณ 6 เมตร โดยมีสามีที่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย นอนอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ รวมทั้งหลานที่เป็นเด็กอีก 5 คน รวมเป็น 9 ชีวิต โดยผู้เป็นสามีจะเก็บเอาอาหารที่ชาวบ้าน หรือร้านสะดวกซื้อนำสินค้าที่หมดอายุมาทิ้งในถังยะ มารับประทานเป็นอาหารในครอบครัว
ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปตรวจสอบ พบ น.ส.น้ำหวาน พันณรงค์ อยู่กับหลานอีก 3 คน รวมทั้ง ด.ช.ภูมิติยะ สว่างศรี ที่ป่วยติดเตียงพิการทางสมอง พร้อมทั้งเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยตนมีลูกชาย ลูกสาว จำนวน 8 คน โดยทั้งหมดเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนสามีเก่าจะทิ้งไป จึงย้ายครอบครัวมาอยู่ชลบุรีได้ 18 ปี แล้ว โดยเป็นแม่บ้านในโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และได้มาอาศัยอยู่กับสามีใหม่ที่บ้านแห่งนี้
จนกระทั่งลูกสาวได้คลอดหลานชายคนแรกออกมา คือ ด.ช.ภูมิติยะ สว่างศรี คนนี้ ซึ่งเป็นเด็กพิการทางสมอง ตนเองและครอบครัวจึงช่วยกันเลี้ยงมา ซึ่งตนเองและครอบครัวมียากจน มีบ้านอยู่ใกล้กับบ้านแห่งนี้แต่ถูกน้ำท่วม จนไม้ผุพังไปหมดแล้ว จึงต้องมาอาศัยอยู่กับสามีใหม่
สำหรับอาหารที่กินอยู่ประจำนั้น สามีใหม่จะออกไปหาของเก่าและเจออาหารที่ยังสามารถกินได้ก็เอากลับมาล้าง เอามาแยกของเสียออกแล้วก็กินกันในครอบครัว ส่วนแพมเพอร์สเด็กต้องซื้อ แต่ระยะหลัง นายกเทศบาลนครแหลมฉบัง ให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้งได้ค่าเบี้ยยังชีพผู้พิการ 800 บาท แต่บัตรอยู่ที่พ่อของเด็ก รวมทั้งบัตรคนจน และลูกที่มีอาชีพรับจ้างให้เดือนละ 5 พันนำมาใช้จ่ายเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเล่าเรียนให้แก่หลานอีก 1 คน ไม่ค่อยพอใช้
ในขณะนี้อยากจะขอให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือในเรื่องของอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค รวมทั้งพัดลมที่ปัจจุบันมีอยู่เพียงตัวเดียว และถ้ามีคนใจบุญก็อยากให้สร้างบ้านให้คนในครอบครัวได้พอเข้าไปอยู่อาศัยกัน ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นของลูกสามีใหม่
ซึ่งถ้าผู้มีจิตกุศลต้องการให้ความช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับครอบครัวนี้ สามารถติดต่อไปได้ที่เทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี