หนองคาย - ผอ.เรียกเคลียร์แล้วเด็กในคลิปตีกันว่อนโซเซียล ตาของเด็กที่ถูกตีบอกคราวนี้ยอมให้ หากเกิดอีกจะไม่ยอมเด็ดขาด ด้านปู่ของเด็กที่ทำร้ายรุ่นน้องเผยหลานเครียดโทรศัพท์ถูกลักถึง 2 ครั้งจนไม่ไปโรงเรียน เพิ่งไปวันเดียวก็เกิดเรื่อง
จากที่มีการเผยแพร่คลิปเด็กนักเรียนหญิงรุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้องในห้องเรียนของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ระบุว่าเป็นโรงเรียนในจังหวัดหนองคาย ผู้สื่อข่าวได้ติดตามหาข้อเท็จจริงจนรู้ว่าโรงเรียนดังกล่าวคือโรงเรียนบ้านคำโคนสว่าง ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 จึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
พบว่าเด็กที่ถูกทำร้ายคือ ด.ญ.แพน อายุ 11 ขวบ เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อาศัยอยู่กับตา พ่อแม่ไปทำงานรับจ้างที่หาดใหญ่ ส่วนเด็กที่ทำร้ายคือ ด.ญ.เค็กน้อย อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเดียวกัน อาศัยอยู่กับปู่ พ่อแม่เลิกกันแล้วเอามาให้เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ ติดต่อไม่ได้
ส่วนวันที่เกิดเหตุคือวันจันทร์ที่ 22 ก.ค. 62 ช่วงก่อนเที่ยงวันเล็กน้อย เป็นช่วงที่ครูมีการประชุม โดยก่อนทำร้ายได้ล็อกห้องเรียนไว้ ล่าสุดนายบัวสอน จำปาศรี ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เรียกทุกฝ่ายมาทำความตกลงไกล่เกลี่ยกัน และผู้ปกครองเด็กที่ไปทำร้ายรุ่นน้องมีการจ่ายค่าทำขวัญให้เด็กที่ถูกทำร้าย นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้ยอมรับว่าเป็นข้อบกพร่องของทางโรงเรียนในการดูแลเด็กด้วย พร้อมรับปากว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทำให้ทุกฝ่ายพอใจยอมยุติเรื่องทั้งหมด
นายสุดตา วุฒิสิงห์ อายุ 51 ปี ตาของเด็กที่ถูกทำร้าย เล่าให้ฟังว่า ทราบเรื่องที่หลานถูกทำร้ายในช่วงเช้าของวันที่ 23 ก.ค. 62 หลังวันที่ถูกทำร้าย 1 วัน จากลูกที่นำคลิปมาให้ดู ส่วนหลานไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง ไปโรงเรียนกลับมาก็เห็นว่าปกติดี หลังตนทราบเรื่องก็ได้เดินทางไปพบครูที่โรงเรียน ซึ่งครูบอกว่าจะเรียกฝ่ายที่ทำร้ายมาเคลียร์ให้ จนกระทั่งได้มีการเรียกผู้ปกครองของเด็กที่ทำร้ายหลานตนมาพูดคุยทำความตกลงกัน และทุกอย่างก็จบลงเมื่อเช้าของวันนี้ (25 ก.ค. 62) โดยผู้ปกครองของเด็กที่ทำร้ายหลานตนได้จ่ายค่าทำขวัญให้ ซึ่งตนไม่อยากจะพูดอะไรและไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปกว่านี้
เนื่องจากเป็นคนใกล้ชิดกัน เป็นเหมือนญาติพี่น้องกัน สงสารกันเพราะต่างคนต่างก็ฐานะยากจน ค่าทำขวัญหรือค่าผูกแขนก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร แล้วแต่จะให้
นายสุดตาเล่าอีกว่า ทางโรงเรียนก็ยอมรับผิด ช่วงที่เกิดเหตุก็เป็นช่วงที่มีการประชุมกันอยู่ จากการสอบถามหลานว่าทำไมถึงถูกทำร้าย หลานบอกว่าก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ด่าพ่อแม่ของเด็กที่มาทำร้ายตามที่เด็กที่มาทำร้ายบอก วันนี้ (25 กรกฎาคม 62) หลานก็เป็นไข้ไม่สบายได้พาไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพแล้ว หากไม่ดีขึ้นพรุ่งนี้จะพาไปหาหมอในตัวอำเภอ หากเกิดเรื่องแบบนี้กับหลานของตนอีกจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด จะไม่ยอมเหมือนในครั้งนี้
ซึ่งทางครูและผู้ปกครองของเด็กที่ทำร้ายหลานตนรับปากว่าจะช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก รวมไปถึงชาวบ้านในหมู่บ้านก็จะช่วยกันดูแลอีกแรงหนึ่งด้วย และตนอยากจะบอกเด็กๆ ที่ทำร้ายคนอื่นว่า ให้เลิกพฤติกรรมที่ไม่ดีแบบนี้ หากมีการตั้งแก๊งหรือรวมกลุ่มกันก็ให้เป็นการรวมกันทำความดี อย่าทำแบบนี้ เพราะทำให้ทุกฝ่ายเดือดร้อนกันไปหมด ทั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมไปถึงโรงเรียนที่เสียชื่อเสียงไปด้วย
นอกจากหลานของตนจะถูกทำร้ายแล้ว ยังมีคนอื่นที่ถูกทำร้ายแบบนี้ด้วย จากการถามเด็กๆ บอกว่ามีหลายคน แต่ที่ไม่เป็นเรื่องกันเนื่องจากไม่มีคลิปเผยแพร่ออกไปแบบนี้ ต่อจากนี้ตนก็จะได้บอกหลานว่า ไปเรียนก็ให้ตั้งใจเรียน พยายามหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมาอีก หากเกิดเรื่องก็ขอให้มาบอกครูในโรงเรียนและมาบอกพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องกลัวใครขู่
ซึ่งปกติหลานตนจะเป็นคนเฉย ไม่สู้คน เล่นปกติเหมือนเด็กทั่วไป เวลาไปไหนก็จะไปกับน้อง (ญาติ) ส่วนพ่อแม่ของหลานก็ไปทำงานรับจ้างอยู่ที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตนก็เคยสอบถามอยู่ ทำให้รู้ว่าเมื่อก่อนก็เคยถูกทำร้ายแต่ไม่รู้รายละเอียดว่าใครเป็นคนทำร้าย อาจจะเป็นหยอกตีกันธรรมดา ไม่หนักเหมือนครั้งนี้ เด็กและเพื่อนเด็กที่ทำร้ายก็คงจะไม่ได้คิดอะไรตามประสาเด็ก จึงได้มีการถ่ายคลิปและอัปคลิปจนเป็นเรื่องเป็นราวบานปลายกันไป
อาจจะเป็นการเลียนแบบข่าวที่มีการเสนอให้เห็นบ่อยๆ ปกติเองทางโรงเรียนก็ห้ามไม่ให้เด็กนำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนด้วย แต่เด็กก็แอบนำไปเหมือนเดิม ตอนนี้ก็ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองไม่ให้เด็กนำโทรศัพท์ไปโรงเรียนอีกทางหนึ่ง
ด้านเด็กหญิงแพรว อายุ 9 ขวบ อยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนเดียวกัน ที่เป็นญาติมีศักดิ์เป็นน้องของเด็กหญิงที่ถูกทำร้าย เล่าให้ฟังว่า วันที่พี่ถูกทำร้ายตนอยู่ด้านนอกเพราะห้องถูกล็อกไว้ก่อนจะทำร้ายพี่แพน หลังจากพี่แพนออกมาตนก็ถามว่าถูกทำร้ายไหม แค่ถามเฉยๆ พี่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียวแต่ก็ไม่ยอมบอกอะไร เดินลงบันไดแล้วเข้าห้องไปเรียน พอมาถึงบ้านก็ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง ตนรู้ว่าพี่ถูกทำร้ายเพราะตนอยู่ด้านนอกห้อง
นายจำลอง ผาจงสินธ์ อายุ 59 ปี ปู่ของเด็กที่ไปทำร้ายเด็กนักเรียนรุ่นน้อง เล่าให้ฟังว่า หลานเล่าให้ฟังว่าที่ทำร้ายรุ่นน้องเพราะน้องด่าถึงพ่อแม่ ซึ่งเป็นวันแรกที่หลานกลับเข้าไปเรียนอีกครั้งหลังไม่ยอมไปโรงเรียนเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน สาเหตุที่ไม่ไปโรงเรียนนั้นเนื่องจากหลานถูกขโมยโทรศัพท์ถึง 2 ครั้ง ตนเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่แบเบาะเพราะพ่อแม่เลิกกัน แม่เป็นชาวลาว หลังเลิกกันลูกชายตนและแม่ของเด็กก็ไม่รู้ไปไหน ติดต่อกันไม่ได้
หลังจากที่ทางโรงเรียนเรียกไปตกลงกันก็ได้บอกว่าครั้งนี้อนุโลมให้ ต่อไปไม่ให้มีเรื่องแบบนี้อีก หากมีก็จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ปกติหลานตนก็เหมือนเด็กทั่วไป พามาวัดด้วยตลอด เพิ่งจะเครียดหลังจากที่เพื่อนขโมยโทรศัพท์ ตนก็ได้บอกสอนให้ทำแต่สิ่งดีๆ มาโดยตลอด
