xs
xsm
sm
md
lg

อดีตดารา “ธีร์ ภูมิธนะวัชร์” แจงยิบกรณีเงินบริจาคช่วยป่วยหนัก หลังคนสงสัยอยู่บ้านใหม่-มีรถยนต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ธีร์ ภูมิธนะวัชร์” อดีตนักแสดงหนุ่ม ป่วยหนักแจงยิบเรื่องเงินรับบริจาคช่วยเหลือ หลังถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องบ้านใหม่และรถยนต์ ยืนยันเช่าอยู่ ส่วนรถจ่อโดนยึด เผยตอนแรกได้เงินรวมกว่า 2 แสนแล้วใช้ไปจนเหลือ 5 หมื่น กระทั่งโพสต์ล่าสุดได้มาอีกแสนกว่ารวมเป็น 2 แสนกว่า พร้อมของดรับบริจาคแล้วเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย



รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตามที่ ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ บุญลือประดิษฐ์ อดีตนักแสดงหนุ่ม ได้ตกเป็นข่าวอีกครั้งกรณีที่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ในโพสต์คลิปวิดีโอในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อ รุ่งโรจน์ ทองไพรวัน พร้อมกับพูดว่า “ขอโทษด้วยถ้ามิได้อยู่ต่อ ลูกจะสู้จนลมหายใจสุดท้าย กราบขอบพระคุณความเมตตาจากทุกท่านด้วย” โดยช่วงพูดได้มีลักษณะเหมือนมีอาการเหนื่อยหอบ และมีการร้องไห้ออกมาระบายความรู้สึกในใจ

ต่อมาได้มีสื่อมวลชนช่องหนึ่งเข้าไปสัมภาษณ์และนำข่าวคราวความเคลื่อนไหวของหนุ่มธีร์ ซึ่งยังพักรักษาตัวอยู่ในบ้านเช่า และมีข่าวทำนองว่ามีการตั้งข้อสงสัยในเรื่องของยอดเงินบริจาคก่อนหน้านั้นที่มีสื่อมวลชนทั้งทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ รวมทั้งสื่อออนไลน์ได้นำเสนอข่าวอาการป่วยของหนุ่มธีร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา และมีการเปิดเผยบัญชีเพื่อส่งเงินช่วยเหลือ ซึ่งมีประชาชนผู้ใจบุญได้ช่วยกันบริจาคเงินไปช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ขณะนั้นหนุ่มธีร์ได้เช่าอาคารชุดบ้านเอื้ออาทรที่ตำบลป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นที่พักอาศัย หลังจากที่ตกเป็นข่าวแล้วก็มีหลายหน่วยงานเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่ดูแลเกี่ยวกับโรควัณโรค รวมทั้งสำนักงานประกันสังคม

จากนั้นหนุ่มธีร์ก็ได้ย้ายออกจากที่พักดังกล่าวโดยได้ไปเช่าบ้านพักซึ่งมีผู้ใจบุญเปิดบ้านพักให้เช่าในราคาถูกและได้ย้ายไปพักรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมได้โพสต์คลิปภาพใน Facebook ส่วนตัว เป็นคลิปที่ถ่ายจากมือถือโพสต์ตัดพ้อเรื่องของอาการป่วยอีกครั้ง และมีสื่อออนไลน์ได้นำคลิปภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 62 ได้มีการนำเสนอข่าวเผยแพร่จนกระทั่งมีการตั้งข้อสงสัยว่ายอดเงินบริจาคทำไมได้เพียง 50,000 บาท และมีการตั้งข้อสังเกตอีกว่าบ้านที่พักอาศัยเป็นบ้านสภาพใหม่และยังมีรถยนต์จอดอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวด้วย หลังจากข่าวนี้ได้ถูกเผยแพร่ก็ทำให้หลายคนแสดงความเป็นห่วงและคลางแคลงใจในเรื่องดังกล่าว

ล่าสุดหนุ่มธีร์ได้เปิดใจในเรื่องต่างๆ อีกครั้ง โดยหนุ่มธีร์กล่าวว่ารู้สึกเครียดและไม่สบายใจจากข่าวดังกล่าวที่ออกไป โดยตัดพ้อว่าบางส่วนอาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจหรือคลางแคลงใจกับตนเองโดยเฉพาะเรื่องของเงิน บ้านพัก และรถยนต์ ซึ่งยอมรับว่าอาจจะเกิดจากการสื่อสารกับผู้สื่อข่าวจนเข้าใจคลาดเคลื่อนรวมทั้งเรื่องที่มีการขอดูสมุดบัญชีเพื่อยืนยันยอดเงินบริจาค ซึ่งไม่สามารถให้ดูได้เพราะว่าตนเองป่วยไม่สามารถออกไปอัปเดคสมุดบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวของเงินช่วยบริจาคต่างๆ ให้ดูได้ แต่มีเพียงยอดเงินรวมที่ดูจากไอแบงกิ้งผ่านทางมือถือเท่านั้น

สำหรับจำนวนเงินตั้งแต่ตนเองล้มป่วยและเป็นข่าวในครั้งแรกจนมีผู้ใจบุญโอนเงินมาช่วยเหลือตั้งแต่หลักสิบบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาทนั้นมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งได้เงินประมาณ 200,000 บาทเศษ จึงได้นำเงินมาใช้ในการดูแลรักษาตัวเอง ใช้หนี้สินที่เคยไปหยิบยืมมา และมาเช่าบ้านอยู่ โดยมีผู้ใจบุญซึ่งไม่ขอประสงค์ออกนามได้ปลูกบ้านไว้ในพื้นที่ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ แม้จะเป็นบ้านใหม่แต่เจ้าของบ้านได้แบ่งให้เช่า โดยตัวเจ้าของบ้านเองก็ยังอยู่อาศัยร่วมกันอยู่ในบ้านด้วย และให้ตนเองกับแม่มาเช่าอยู่ด้วยกันในราคาเดือนละ 2,000 บาทเท่านั้น ซึ่งมีการเก็บมัดจำล่วงหน้าอีก 2,000 บาทเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 4,000 บาทในการจ่ายค่าเช่าบ้านในครั้งแรก


ยืนยันว่าบ้านนี้ไม่ใช่ของตนที่นำเงินจากการบริจาคมาซื้อ สำหรับเงินที่ได้มาก็เอามาใช้จ่ายในการดูแลตนเองและแม่ แม้ว่าตนจะไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่ายาในการรักษาเนื่องจากสำนักงานประกันสังคม และทางสาธารณสุขได้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องนี้ทั้งหมด แต่ส่วนหนึ่งก็จำเป็นที่จะต้องนำมาซื้ออาหารและยารักษาโรคของคุณแม่ ซึ่งมีอาการป่วยทั้งความดัน เบาหวาน และโรคเกาต์ จนกระทั่งถึงวันที่ตนโพสต์คลิปอีกครั้งในวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งตอนนั้นตนเหลือเงินจากการบริจาคอยู่ประมาณ 50,000 บาท




แต่ด้วยอาการป่วยที่ตนเป็นไข้หวัดก่อนหน้านั้นถึงสามวันติดต่อกันจึงทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ตนเข้าใจว่าโรควัณโรคทับตับที่ตนป่วยอยู่อาจจะกำเริบหรืออาจจะทำให้ตนมีอาการหนักและอาจจะไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ทั้งหมดเป็นความกังวลใจของตนจึงได้ถ่ายคลิปและโพสต์ระบายความอัดอั้นและตัดพ้อในเรื่องดังกล่าวออกมาใน Facebook ส่วนตัว หลังจากที่โพสต์คลิปลงไปก็พบว่ามีสื่อออนไลน์หลายสื่อได้แสดงความเห็นใจและได้แชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปอีกครั้ง และครั้งนี้ทำให้มีประชาชนผู้ใจบุญเห็นอกเห็นใจช่วยกันโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือตนอีกจำนวนมากในช่วงสองวันที่ผ่านมามียอดเงินเข้ามาอีกกว่า 150,000 บาท

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคมมียอดเงินรวมกับของเก่าที่เหลือ 50,000 บาทเป็นทั้งสิ้นประมาณ 220,000 บาท และยังพบว่ามีคนโอนเงินเข้ามาช่วยเหลืออีกเรื่อยๆ ส่วนอาการไข้ของตนนั้นพบว่าตั้งแต่เมื่อวานนี้เริ่มดีขึ้นไม่มีอาการหอบเหนื่อยหรือปวดมากเท่าช่วงก่อนที่มีการถ่ายคลิป และเพิ่งจะสามารถลุกยืนเดินไปมาหรือช่วยเหลือตนเองได้เมื่อวันสองวันนี้เอง

หลังจากที่ข่าวออกไปเมื่อวานนี้ที่มีการตั้งข้อสังเกตต่างๆ จึงทำให้ตนรู้สึกเครียดและไม่สบายใจอย่างมาก จึงได้ขอชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่จะเรียกร้องใดๆ เพิ่มเติมอีก และเงินที่ได้รับบริจาคมาจนถึงวันนี้ก็เพียงพอที่จะดูแลตนและคุณแม่ไปได้อีกระยะหนึ่ง จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ว่าขอรับน้ำใจเป็นอย่างอื่น เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง หรือว่าอาหารบำรุงต่างๆ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมากกว่า หากว่าการรับบริจาคเงินของตนนั้นทำให้เกิดความคลางแคลงใจหรือไม่สบายใจจากผู้ใจบุญ แต่หากขาดเหลืออะไรไปในภายภาคหน้าก็ค่อยขอรับความช่วยเหลือเป็นครั้งคราวตามความจำเป็นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าบ้านที่อยู่อาศัยปัจจุบันนี้ไม่ได้ซื้อ แต่เป็นบ้านเช่าของคนที่มีน้ำใจให้เช่าอยู่ พร้อมทั้งนำสัญญาเช่ามาเปิดเผยให้ดูด้วย ส่วนรถยนต์ยอมรับว่าตนเป็นผู้ซื้อซึ่งซื้อตั้งแต่ครั้งที่ยังมีกำลังทำงานโดยใช้ชื่อของคนรู้จักเป็นผู้ซื้อ แต่หลังจากที่ล้มป่วยก็ไม่มีกำลังที่จะไปจ่ายค่ารถ ซึ่งก็ได้พูดคุยกับผู้ที่ออกชื่อซื้อให้ซึ่งยินดีที่จะรับรถและภาระหนี้ต่อจากตน และหากตนอาการดีขึ้นจนสามารถออกไปธนาคารได้ก็ยินดีที่จะนำบุ๊กแบงก์ไปให้เจ้าหน้าที่อัปเดตข้อมูลและนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้งเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทั้งนี้ ก็ขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายที่หลั่งไหลเข้ามา

กำลังโหลดความคิดเห็น