กาฬสินธุ์ - เปิดสวนเกษตรผสมผสานโชว์ผลผลิต “อินทผลัม” พันธุ์กินสดไร้สารเคมี หวานกรอบอร่อย กิโลฯ ละ 500 บาท เผยแต่ก่อนปลูกพืชเชิงเดี่ยวใช้ปุ๋ยเคมีเสี่ยงทั้งราคาตกต่ำเสี่ยงด้านสุขภาพ พอทำสวนผสมตามรอยพ่อหลวง คุณภาพชีวิตดีขึ้นมีความสุข
ที่บ้านโสกทราย ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ที่ตั้งของสวนอินทผลัมสุพรรณ์ ของครอบครัวนายสุพรรณ์ อนุมาตร์ และนางสุภี อนุมาตร์ สองสามีภรรยาที่ลงทุนปลูกอินทผลัมเป็นเวลากว่า 7 ปี และขณะนี้กำลังให้ผลผลิตที่มีคุณภาพผลโต รสชาติหวาน กรอบ จากระบบการดูแลและปลูกแบบอินทรีย์ไร้สารเคมี โดยใช้วัสดุอินทรีย์เพื่อปรับปรุงบำรุงดิน
เจ้าของสวนยังเปิดสวนอินทผาลัมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอเป็นพี่เลี้ยง ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเดินทางไปชิมผลอินทผลัมและชมสวนจำนวนมาก
นายสุพรรณ์ อนุมาตร์ อายุ 50 ปี เจ้าของสวนอินทผลัมสุพรรณ์ กล่าวว่า เดิมทีเป็นเกษตรกรชาวไร่ทั่วไปปลูกอ้อย มัน และข้าว นอกเหนือจากประสบปัญหาผลผลิตการเกษตรราคาตกต่ำแล้วยังเสี่ยงต่อสุขภาพ เพราะต้องใช้ปุ๋ยเคมีต้องเจอกับสารพิษรุนแรงมาโดยตลอด จนกระทั่งลูกชายเห็นว่าพ่อและแม่อายุเพิ่มมากขึ้นจึงหาพืชตัวใหม่ให้ปลูกและปรับเปลี่ยนวิถีเกษตรจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นเกษตรผสมผสาน ตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้เริ่มคิดและลงมือทำย่างสู่ปีที่ 8
ภายในสวนมีฝรั่งพันธุ์กิมจู ผักหวานป่า มะนาว นาข้าวไรซ์เบอร์รี และอินทผลัม บนเนื้อที่ 6 ไร่เศษ ใช้ระบบน้ำหยดจากการขุดบ่อเลี้ยงปลาในสวนจำนวน 2 บ่อที่เพียงพอต่อการทำเกษตรผสมผสานตลอดทั้งปี
การเปลี่ยนวิถีการทำเกษตรมาเป็นแบบผสมผสานและใช้อินทรีย์ทดแทนการใช้เคมีทำให้สุขภาพดีขึ้น และผลผลิตที่ส่งต่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานมีความปลอดภัย รู้สึกมีความสุขมากที่มาถึงจุดนี้ โดยเฉพาะสวนอินทผลัมถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ต้องเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อคงคุณภาพและตอบโจทย์ผู้บริโภค
โดยที่ลูกชายจะไปร่วมอบรมตามสวนและเครือข่ายต่างๆ และมาถ่ายทอดให้ฟังเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันทั้งครอบครัว ลองผิดลองถูกมาตลอดระยะเวลา 7 ปี จนถึงผลผลิตรุ่นที่ 3 ได้ส่งผลอินทผลัมให้ทุกคนได้ชิมต่างพอใจในรสชาติและคุณภาพของผลผลิต ทางสวนถือว่าประสบความสำเร็จแล้วหนึ่งก้าว
ในส่วนของการพัฒนาต่อไปคงจะเป็นการเลือกสายพันธุ์ที่หลากหลายเข้ามาปลูกเพิ่มขึ้น ปัจจุบันปลูกสายพันธุ์บาฮี หรือพันธุ์กินสด เพาะต้นพันธุ์จากเนื้อเยื่อจำนวน 50 ต้น เนื้อที่ 2 ไร่ ปีนี้ให้ผลผลิต 30 ต้น มีความสมบูรณ์มาก โดยเปิดจำหน่ายหน้าสวน กก.ละ 500 บาท ทำให้ขณะนี้มีรายได้วันละ 1,000-2,000 บาท จากการขายผลอินทผลัมหน้าสวน
นางกัลยา จรเอียด เกษตรอำเภอสหัสขันธ์ ระบุว่า สำหรับสวนสุพรรณ์อยู่ด้านหลังกำแพงวัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) สถานที่ท่องเที่ยวหลักของ อ.สหัสขันธ์ และของ จ.กาฬสินธุ์ เป็นอีกฐานความรู้กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง โดยสวนสุพรรณ์ได้เลือกที่จะปลูกอินทผลัมพันธุ์บาฮี หรือพันธุ์กินสด ซึ่งเพาะจากเนื้อเยื่อ สลับกับพืชสวนอีกหลายอย่าง ขณะนี้ผลผลิตของอินทผลัมกำลังสุกพร้อมจำหน่าย ในแต่ละวันมีประชาชนเดินทางมาซื้ออินทผลัมกันที่หน้าสวนจำนวนมาก รวมถึงมาเที่ยวชมสวนสอบถามข้อมูลการปลูกต้นอินทผลัมเพราะเห็นว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจ และผลของอินทผลัมยังมีสรรพคุณหลายอย่างที่ดีต่อร่างกาย ทำให้สายรักสุขภาพให้ความสนใจ
สวนสุพรรณ์เป็นอีกหนึ่งสวนของแปลงเกษตรผสมผสานที่ประสบความสำเร็จมีผลผลิตสร้างรายได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ทางสำนักงานเกษตรอำเภอสหัสขันธ์ได้จัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่จะต้องแวะชม ชิม และชอป เมื่อเดินทางมาถึง อ.สหัสขันธ์ นักท่องเที่ยวสามารถชิมผลอินทผลัมแบบสดๆ จากต้นได้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานโดยมีเจ้าหน้าที่เกษตรเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำด้วย