สระแก้ว - ยังไม่จบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.สระแก้ว ยังเดินหน้าเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบนำขยะอุตสาหกรรมเข้ามาคัดแยกในเขตป่าอนุรักษ์ ล่าสุด ผอ.ส่วนทรัพยากรน้ำ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เข้าแจ้งความฐานลอบใช้น้ำบาดาล
วันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีการลักลอบนำขยะอุตสาหกรรมเข้ามาคัดแยกและทิ้งในเขตป่าโซนซี เขาซับพลู-เขาพลูหีบ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ ม.8 บ้านหนองแก ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จำนวนกว่า 300 ตัน จนทำให้หน่วยงานต่างๆ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าของขยะ และบริษัทที่ลักลอบนำขยะดังกล่าวเข้ามาทิ้งแล้วหลายคดีว่า ล่าสุด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้เข้าแจ้งความเอาผิดต่อผู้ลักลอบทิ้งขยะโดยผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีกด้วย
นายชนินทร สิขัณฑกนาค ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว เผยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดต่อเจ้าของพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล หลังพบว่ามีการใช้น้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนี้ยังรอผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำจากกรมน้ำบาดาลส่วนกลาง ว่าได้รับผลกระทบจากการชะล้างสารเคมีจากขยะอุตสาหกรรมด้วยหรือไม่
“ขณะนี้ได้เตรียมทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ โดยรอผลวิเคราะห์คุณภาพน้ำ ส่วนการดำเนินคดีก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล เพราะพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่า ไม่สามารถดำเนินการออกใบอนุญาตได้ และไม่สามารถดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาลได้ และในเบื้องต้น จะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทราบด้วย” นายชนินทร กล่าว
เร่งตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่หวั่นสัมผัสสารเคมี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตาหลังใน หรือ รพ.สต.ได้ร่วมกับแพทย์จากโรงพยาบาลอรัญประเทศ โรงพยาบาลวังน้ำเย็น สาธารณสุขอำเภอวังน้ำเย็น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพและตรวจหาสารพิษตกค้างให้แก่ชาวบ้าน ต.ตาหลัง และชาวบ้านหนองแก ม.8 จำนวน 22 ครัวเรือนด้วย
นอภ.วังน้ำเย็น เอาผิดเจ้าของพื้นที่ลอบนำรถขนขยะขายร้านรับซื้อของเก่า
ด้าน นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น เผยว่า ขณะนี้ได้มีการแจ้งความเพิ่มเติมต่อ นายสาธิต ธูปทอง ผู้รับเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าวอีก 1 ข้อหา กรณีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานไม่นำขยะของกลางไปส่งที่ต้นทาง โดยจากการสอบสวน นายสาธิต ยอมรับว่าได้ว่าจ้างรถบรรทุกพ่วงคันสุดท้ายเข้ามาขนขยะ โดยไม่แจ้งต่อคณะทำงานฯ เพื่อนำขยะที่คัดแยกไว้ออกไปขายให้แก่ร้านรับซื้อของเก่า และยังอ้างว่าได้ทำการในช่วงที่มีฝนตกจึงทำให้ไม่มีการบันทึกลงในข้อมูลการตรวจนับ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนและนำโทรศัพท์ของคนขับรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบแล้ว พบว่า มีการโทรศัพท์ติดต่อกันจริง จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม