xs
xsm
sm
md
lg

รอง มทภ.3 โต้เดือดคนกุข่าวใช้สารปลอมทำฝนหลวงว่อนโซเชียลฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิษณุโลก - ฟังชัดๆ รองแม่ทัพภาคที่ 3 โต้คนโจมตีฝนหลวงใช้สารปลอม บอกมาช่วยยกสารเคมีขึ้นเครื่องดีกว่ามั้ย!? ระบุ คนทำงานแบกกระสอบสารฝนหลวงเป็นตันๆ เหนื่อยแทบตายมองไม่เห็น กลับใช้สื่อโซเชียลฯ กุข่าวถล่ม



พลตรี บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ตอบโต้บุคคลที่ใช้สื่อโซเชียลฯ โจมตีว่า..การทำฝนหลวงใช้สารเคมีปลอม..ระหว่างเปิดศูนย์ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและภัยพิบัติอื่นๆ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้บัญชาการ ณ ห้องคชรัตน์ 2 กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก วานนี้ (22 ก.ค. 62)

โดยระบุว่า ไทยเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง แหล่งกักเก็บน้ำลดลง มีภัยแล้งเกิดขึ้นถึงขั้นวิกฤตใน 5 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดสำรวจพื้นที่วิกฤตเพื่อเข้าไปดูว่าเกิดปัญหาอะไร จะแก้ไขให้ประชาชนอย่างไร อันดับแรกคือ ปัญหาน้ำอุปโภคก่อน

“แต่เศร้าใจเมื่อปรากฏมีการใช้สื่อโซเชียลฯ โจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝนหลวงว่าฝนไม่ตกเพราะใช้สารเคมีปลอม ถามว่ามีสมองคิดหรือไม่ เพราะคนทำงานเหนื่อยแทบตาย แทนที่จะมาช่วยกัน อย่างน้อยก็มาดูเจ้าหน้าที่คนทำงานบ้าง ไม่คิด ไม่ดูเขา อ้างแต่คำว่า สารเคมีปลอม”

พลตรี บัญชากล่าวต่อว่า หน่วยฝนหลวงที่ จ.ตาก เขาต้องแบกสารเคมีขึ้นเครื่องบินน้ำหนักเป็นตันๆ ถ้าสารเคมีจับตัวเป็นก้อนแข็งๆ ต้องมาทุบสารให้ละเอียดก่อน ไม่ใช่โปรยกันง่ายๆ เหมือนเกลือ บางทีตนก็หดหู่ใจกับคนไทย ถามว่าคิดเรื่องอะไรกันอยู่ ขอให้เลิกทีเถอะ ให้ขับรถมาที่หน่วยฝนหลวง มาช่วยยกกระสอบสารเคมีขึ้นเครื่องบินจะดีกว่า

“ปัญหาภัยแล้งเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ ควรให้กำลังใจ ควรช่วยกัน กลับบอกว่าใช้สารเคมีปลอม ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

ด้านพันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 ได้ชี้แจงภารกิจหลักของกองทัพในการช่วยประชาชนฝ่าวิกฤตภัยแล้งขณะนี้ คือ 1. อำนวยการ ประสานงานและบูรณาการความร่วมมือทั้งปวงในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และสนับสนุนการเข้าช่วยเหลือมอบน้ำอุปโภค บริโภค ให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหา 2. สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ และการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการใช้น้ำ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาภัยแล้ง

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้มณฑลทหารบกทั้ง 10 หน่วยร่วมกับหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 (กองพลทหารราบที่ 4, กองพลทหารราบที่ 7, กองพลทหารม้าที่ 1, กองพลพัฒนาที่ 3 และกองบัญชาการช่วยรบที่ 3) จัดตั้ง “ศูนย์ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและภัยพิบัติอื่นๆ มณฑลทหารบก” เพื่อประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ทั้ง 17 จังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการดังนี้ .-

1. พื้นที่ในเขตชลประทาน โดยการบริหารจัดการน้ำใช้ทางการเกษตรและการทยอยปลูกพืชโดยใช้น้ำฝน
2. พื้นที่นอกเขตชลประทาน โดยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ, การสนับสนุนเครื่องมือ และรถบรรทุกน้ำ
3. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีการปรับแผนการใช้น้ำ ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศและปริมาณน้ำต้นทุนที่แท้จริง
4. การทำฝนหลวง
5. การบริหารจัดการน้ำฝนที่ตกลงมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
6. การทำข้อมูลและแผนที่แสดงแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เสี่ยง ในรัศมี 50 กิโลเมตร เพื่อวางแผนการป้องกันภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น
7. ให้หน่วยทหารร่วมกับส่วนราชการพิจารณาขุดบ่อบริเวณคลองหรือแหล่งน้ำ ซึ่งคาดว่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง เป็นน้ำสำหรับใช้อุปโภค
8. เมื่อได้รับการร้องขอจากประชาชน ให้หน่วยทหารดำเนินการสืบสภาพปัญหา ตลอดจนขอบเขตของภัยที่เกิดขึ้น แล้วให้บูรณาการด้วยการระดมขบวนรถบรรทุกน้ำของทุกภาคส่วนเข้าไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างรวดเร็ว

ล่าสุดเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงและน้ำขาดแคลนขึ้นแล้ว 5 จังหวัด 9 อำเภอ ได้แก่ 1. กำแพงเพชร อำเภอทรายทองวัฒนา, อำเภอไทรงาม และอำเภอบึงสามัคคี 2. ลำปาง อำเภอเมือง และอำเภอเถิน 3. พะเยา อำเภอเมือง 4. พิจิตร อำเภอบึงนาราง และอำเภอวชิรบารมี 5. สุโขทัย อำเภอเมือง โดยแม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้มณฑลทหารบกที่ 31, 32, 34, 36 และ 39 เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขเร่งด่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น