xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาหว้าน้ำตาตกใน นาข้าวกว่า 5 หมื่นไร่ขาดน้ำรอยืนต้นตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครพนม - ชาวนา อ.นาหว้าน้ำตาตกใน นาข้าวเกือบ 5 หมื่นไร่ขาดน้ำนาน เสียหายเฉาตายแล้วกว่าหมื่นไร่ ประสานชลประทานเร่งสูบน้ำกู้ชีพต้นข้าว ภายในสัปดาห์หน้าหากไม่มีฝนตกลงมาเชื่อต้นข้าวร่วม 4 หมื่นไร่ตายเรียบ

วันนี้ (22 ก.ค.) นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ ประสานงานร่วมกับ นายทินกร ขันแก้ว นายอำเภอนาหว้า จ.นครพนม นายศุภชัย วิเศษ เกษตรอำเภอนาหว้า นายสฤษดิ์ ไตรตระกาลเดช นายก อบต.บ้านเสียว นายกุล แก้วลา กำนันตำบลท่าเรือ นายอนันต์ นนท์ศิริ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานนครพนม นายทันใจ ณ รังสี ส.อบจ.เขต อ.ศรีสงคราม และผู้นำชุมชนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม ติดตามปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ ต.ท่าเรือ ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งหนักสุดรอบ 50 ปี

ภายหลังระดับน้ำโขงลดต่ำสุดช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม เหลือแค่ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด และเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงติดต่อกันนับเดือน

เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม มีพื้นที่เกษตรนาข้าวกว่า 1.1 แสนไร่ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 40,000 ไร่ ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 10,000 ไร่ หากยังไม่มีฝนตกลงมาอีกประมาณ 1 สัปดาห์คาดว่าจะเสียหายทั้งหมดกว่า 40,000 ไร่ เนื่องจากขาดน้ำหล่อเลี้ยง และไม่มีแหล่งน้ำสำรอง โดยได้มีการประสานไปยังหน่วยงานเกษตร ชลประทานในพื้นที่ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งบริหารจัดการน้ำจากโครงการประตูระบายน้ำหนองบัว โครงการพัฒนาลุ่มน้ำอูน

รวมถึงมีการเดินเครื่องจากสถานีสูบน้ำตามลำน้ำอูน ช่วยเหลือพื้นที่นาข้าวที่สามารถดำเนินการได้ แก้ไขปัญหาเบื้องต้น

นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม ซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยแล้งขั้นวิกฤตสุดในรอบกว่า 30 ปี หลังน้ำโขงแห้ง ส่งผลลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม แห้งขอด ปริมาณน้ำต่ำ สำหรับการให้ความช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ซึ่งจากการลงพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่นาข้าวนาปีของเกษตรกรเสียหายจากการยืนต้นตายแล้วกว่า 10,000 ไร่

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบอีกกว่า 40,000 ไร่ หากในช่วงสัปดาห์หน้าฝนไม่ตกลงมาคาดว่าจะเสียหายทั้งหมด ชาวนาเกษตรกรจะเดือดร้อนหนัก เพราะปริมาณน้ำในลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม เหลือน้อย วิกฤตสุดในรอบกว่า 30 ปี ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งนี้ ได้หารือกับนายอำเภอนาหว้า รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งประเมินสถานการณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริหารจัดการน้ำ ห่วงเรื่องแย่งการใช้น้ำ โดยได้ประสานทางชลประทานให้มีการสูบน้ำจากประตูระบายน้ำหนองบัว โครงการพัฒนาลุ่มน้ำอูน รวมถึงสถานีสูบน้ำตามลำน้ำอูนที่อยู่ในความดูแลของชุมชน และองค์ กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่นาข้าวที่สามารถช่วยเหลือได้

ในสัปดาห์นี้จะได้นำปัญหาเข้าสภาผู้แทนฯ เสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเร่งด่วน ทั้งเรื่องการทำฝนเทียม ไปจนถึงการวางแผน พัฒนาระบบชลประทานในระยะยาว เนื่องจากเป็นสัญญาณอันตราย ปีต่อไปอาจจะกระทบหนัก หากปล่อยไว้ชาวบ้านเกษตรกรอดตายแน่ ถือเป็นภัยธรรมชาติที่น่าห่วง


กำลังโหลดความคิดเห็น