ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดใจ “ลุงมานิตย์” คุณลุงจิตอาสาที่เสียสละเวลาออกมาโบกรถระบายการจราจรบริเวณถนนแยกสะพานเลียบทางรถไฟ ซอยเนินพลับหวาน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นานกว่า 10 ปี โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจนเป็นที่รักของผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่
ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนทุกเช้าและเย็นของทุกวัน สิ่งที่เป็นภาพชินตาของชาวเมืองพัทยา และนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้เดินทางมาเยือนเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก็คือภาพชายสูงวัยที่สวมใส่ชุดเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่ออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกรถ เพื่อระบายการจราจรบริเวณถนนแยกสะพานเลียบทางรถไฟ ซอยเนินพลับหวาน ซึ่งแม้ในบางวันจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง แต่ชายสูงวัยผู้นี้ก็ยังคงทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ขับรถสัญจรไปมาโดยไม่เคยย่อท้อ
ทำให้ในวันนี้ ชายสูงวัยผู้นี้ได้รับคำชื่นชมทั้งจากเจ้าหน้าที่และชาวเมืองพัทยา จนกลายเป็นที่รักของทุกๆ คนโดยถ้วนหน้า ผู้สื่อข่าวจึงไม่รอช้าที่จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับคุณลุงผู้ที่มีใจเป็นจิตอาสาผู้นี้
โดยคุณลุงมีชื่อว่า นายมานิตย์ บันเทิง อายุ 57 ปี และคุณลุงยังบอกอีกว่า ได้ทำงานบริการสังคมเช่นนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว และไม่เคยคิดว่าจะต้องได้ค่าตอบแทนใดๆ จากการทำงาน แค่หวังเพียงว่าจะต้องไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในจุดที่คุณลุงให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงที่การจราจรหนาแน่น และในช่วงวันทำงาน รวมทั้งช่วงที่นักเรียนพากันเดินทางไปโรงเรียน
ทั้งนี้ คุณลุงมานิตย์ มีงานประจำคือ การเป็นพนักงานโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านนาเกลือ และจะใช้เวลาว่างช่วงเช้าก่อนเข้าทำงานและช่วงเย็นหลังเลิกจากงานประจำ มาช่วยโบกรถอำนวยการจราจร
“เมื่อก่อนนี้ใช้เส้นทางแยกสะพานเลียบทางรถไฟ ซอยเนินพลับหวาน อยู่เป็นประจำ และเห็นว่ามีปัญหารถติดในทุกวัน และบางวันก็มีอุบัติเหตุ โดยเฉพาะช่วงชั่วงโมงเร่งด่วน เนื่องจากจุดนี้ไม่มีสัญญาณไฟจราจร และเป็นทางตัดหลายแยก ผู้ใช้รถใช้ถนนมีจำนวนมากเนื่องจากเป็นแหล่งที่พักอาศัย และทุกคนต่างเร่งรีบจนลืมที่จะขับรถด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นแล้วเลยคิดว่าอยากจะทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง ก็เลยออกมาโบกรถคล้ายๆ กับที่ตำรวจจราจรโบก แต่คนขับขี่ไม่ค่อยเบรกรถให้เท่าไร ซ้ำบางคนยังจอดรถด่าอีกด้วยว่าทำให้เขาเสียเวลา”
คุณลุงมานิตย์ ยังบอกอีกว่า แม้จะได้รับคำชมบ้าง ด่าบ้างแต่ไม่เคยโมโหหรือสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตนเองรู้ดีว่ามีเจตนาดีที่ไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุในจุดดังกล่าว ทำให้ในช่วงหลังๆ ได้รับการยอมรับและคำชมจากคนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจรมากขึ้นด้วย
“ตอนที่ตัดสินใจมาโบกรถหวังเพียงว่าไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุเพียงเท่านั้น แต่ในวันนี้สิ่งที่ทำกลายเป็นว่ามีคนเข้าใจและในบางวันมีคนที่ใช้รถใช้ถนนซื้อข้าว ซื้อเครื่องดื่มมาฝากเป็นประจำเพราะเขาเห็นในความตั้งใจของเราในการทำงานเพื่อสังคม เพียงเท่านี้ก็ดีใจแล้ว และจะทำต่อไปจนกว่าสภาพร่างกายจะไม่ไหว”
คุณลุงจะออกมาโบกรถ 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า 07.00-08.30 น. จากนั้นก็กลับไปนอนพักผ่อนที่บ้านเพื่อเอาแรง ส่วนช่วงเย็นจะออกมาโบกเวลา 15.30-17.00 น. บางวันหากรถเยอะก็โบกรถจนมืดค่ำ
ด้าน นางสุชาดา กาญจนรัตน์ อายุ 36 ปี แม่ค้าบริเวณแยกเนินพลับหวาน บอกว่าตั้งแต่มาขายของที่นี่ก็เห็นคุณลุงออกมาโบกรถเป็นประจำ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าดีที่มีคนเสียสละอำนวยความสะดวกให้แก่หลายคนที่ใช้เส้นทาง ไม่เช่นนั้นคงเกิดความยุ่งยากวุ่นวาย หรือเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งการทะเลาะเบาะแว้งกันบนท้องถนนได้ จึงอยากจะให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้แก่ลุงท่านนี้
เช่นเดียวกับ นางพุ่มมารี บุญเดิม อายุ 65 ปี แม่ค้าขายขนมบริเวณแยกเนินพลับหวาน ที่บอกว่ารู้สึกภูมิใจในตัวคุณลุง ที่ช่วยให้การจราจรไม่ติดขัด และไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วงเวลาเร่งรีบ และยิ่งเมื่อรู้ว่า คุณลุงมานิตย์ ทำงานโดยไม่มีค่าตอบแทนยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจในความเป็นจิตอาสาของคุณลุง