เลย - น้ำโขงแห้ง ชาวบ้าน อ.เชียงคาน-อ.ปากชมแห่ลงจับเอาไว้ทำกินในครอบครัว บางส่วนแบ่งขายเป็นรายได้เสริม ขณะที่ข่าวแจ้งเตือนภัยกรณีเขื่อนไขยะบุรีทดลองปั่นกระแสไฟไม่ได้ทำให้ชาวชายโขงหวาดกลัวแต่อย่างใด
ที่ อ.เชียงคาน อ.ปากชม จ.เลย หลังจากแม่น้ำโขงได้แห้งขอดจนเห็นสันดอนทรายเป็นทางยาว และโขดหิน เกาะแก่งกลางน้ำโขง จากเดิมในหน้าฝนไม่มีโอกาสเห็นแต่ปีนี้โผล่พ้นน้ำเห็นชัดเจน และตามเส้นทางเลียบน้ำโขงตั้งแต่ อ.เชียงคาน จนถึง อ.ปากชม จะเห็นชาวบ้านพากันลงจับปลากลางน้ำโขงเป็นระยะ
สภาพน้ำโขงที่แห้งขอดทำให้จับปลาง่ายขึ้น แต่ละคนได้ปลาไม่น้อยกว่า 20-30 กิโลกรัม และไม่หวั่นอันตราย แม้จะมีข่าวแจ้งเตือนจากเว็บไซต์ laodaily.com ที่ระบุว่าเขื่อนไชยะบุรีกำหนดทดลองปั่นกระแสไฟฟ้าจะทำให้น้ำในแม่น้ำโขงขึ้น-ลงผิดปกติ แม้แต่ทางการลาวเองก็ได้เตือนประชากรของตนเองที่อยู่ในเมืองปากลาย ใน สปป.ลาว ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนให้ระมัดระวัง และให้เก็บของขึ้นที่สูง โดยจะเริ่มปล่อยน้ำในวันที่ 17-25 ก.ค.นี้
นายคณิต วงษา ชาวบ้านโนนสวรรค์ หมู่ 8 ต.ห้วยพิชัย อ.ปากชม จ.เลย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้ง เริ่มส่อเค้าทวีความรุนแรง น้ำในแม่น้ำโขงยังแห้งเหือด เห็นแต่สันดอนทราย แก่งหิน ตลอดลำน้ำโขง ทำให้ปลาลงลำน้ำลึกไม่ทัน ยังติดอยู่ตามแก่งหิน ซอกหิน และตามที่ตื้นเขินเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสของชาวบ้านใน ต.ปากชม ต.ห้วยพิชัย ต.หาดคัมภีร์ พากันมาหาปลาเพื่อนำไปประกอบอาหาร ขายบ้าง ทำปลาร้าบ้าง แต่ละคนจับได้ปลากันวันละไม่น้อย
ปลาที่จับได้ส่วนใหญ่จะเป็นปลากระบอก ปลามาง ปลาตะเพียน ปลากด และที่ยังจับได้คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว คือปลาเขี้ยวใกล้ เป็นปลาน้ำโขง ปลาท้องถิ่น เป็นปลาหนัง มีรสชาติอร่อยมาก จะพบมากที่บ้านปากเนียม ส่วนใหญ่ชาวบ้านที่จับปลาส่วนใหญ่จะเอาไว้กิน เหลือเอาไปขาย ซึ่งปลาน้ำโขงจะมีราคาแพงอยู่แล้ว
นายคณิตบอกว่า อย่างกรณีปลากด ชาวบ้านจะขายกิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนปลาตะเพียน ปลามาง กิโลกรัมละ 100-150 บาท ส่วนปลาที่ตัวไซส์เล็กชาวบ้านก็จะนำไปทำปลาร้า ปลาส้ม ปลาแดดเดียว เก็บไว้กิน ซึ่งแต่ละคนมาจับปลาต่างไม่มีผิดหวังกลับไป
ถึงแม้จะมีกระแสข่าวว่าทางเขื่อนไชยะบุรี ฝั่งลาว จะปล่อยน้ำออกมาทดลองปั่นกระแสไฟฟ้า เสี่ยงน้ำขึ้นลงฉับพลันเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านที่ทำมาหากินในลำน้ำโขงได้ก็ตาม
