ผวจ.สระแก้วสั่งตรวจสอบรถต้องสงสัยนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอบขายร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่

สระแก้ว - ผวจ.สระแก้ว สั่งตรวจสอบรถต้องสงสัยขนขยะของกลางลอบทิ้งเชิงเขาซับพลู-เขาภูหีบ ส่งขายร้านรับซื้อของเก่าใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยไม่มีการขนย้ายกลับต้นทาง ชี้หากเป็นจริงเอาผิดกราวรูด

จากกรณีที่มีการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะอุตสาหกรรมมากกว่า 300 ตัน ลักลอบเข้ามาทิ้งบริเวณเชิงเขาซับพลู-เขาภูหีบ ซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์ จ.สระแก้ว นานกว่า 2 เดือน จนทำให้หลายหน่วยงานในพื้นที่ต้องเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบถึงที่มาของขยะ และเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ซันเทค เมททัล จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของขยะได้นำรถบรรทุกพ่วงประมาณ 20 พ่วง เข้ามาขนย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมเตรียมแจ้งความเอาผิดกิจการ "รวมใจรีไซเคิล" ฐานลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะอุตสาหกรรมเข้ามาทิ้งนอกเหนือจากพื้นที่ที่ตกลงกันไว้

และในการขนย้ายขยะวันที่ 2 บริษัท ซันเทค เมททัล จำกัด ได้นำรถแบ็กโฮและรถแทรกเตอร์เข้าปรับพื้นที่เพื่อตักขยะขึ้นรถบรรทุกพ่วงให้แล้วเสร็จ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานประจำอำเภอวังน้ำเย็น ร่วมกับคณะทำงานกำกับ ควบคุมและดูแลการขนย้ายวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เข้าสังเกตการณ์การขนย้ายวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่ กระทั่งพบความผิดปกติในหลายประการ

โดย นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน เผยถึงรายงานผลการขนย้ายขยะคันสุดท้ายเมื่อเวลา 18.40 น.ของวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า บริษัทฯ ได้ทำการขนย้ายขยะและวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่เสร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยใช้รถขนทั้งสิ้น 41 เที่ยว

แต่จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ อส.ที่ถ่ายภาพรถทุกคันที่นำขยะออกจากพื้นที่ พบว่า วันที่ 17 ก.ค.มีการขนขยะออกไป จำนวน 26 เที่ยว ไม่รวมรถพ่วงที่ขับกลับมาเติมขยะ และไม่รวมรถบรรทุกพ่วงเที่ยวสุดท้าย ทะเบียนตัวแม่ 81-0383 สระแก้ว ไม่ทราบทะเบียนลูกพ่วงที่นำขยะอุตสาหกรรมที่คัดแยกแล้วประเภทพลาสติก โลหะ เหล็ก อะลูมิเนียม แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์และอื่นๆ ที่ถูกนำใส่ถุงปุ๋ยวางกองไว้บริเวณโดยรอบ นำออกจากพื้นที่เป็นคันสุดท้าย ในช่วงเวลา 18.40 น. โดยมีผ้าคลุมปิดมิดชิด

ขัดแย้งกับรายงานบันทึกการขนย้ายที่ระบุว่า รถพ่วงคันสุดท้ายคันที่ 22 ทะเบียน 81-6119 ลูกพ่วงทะเบียน 81-9127 ที่มีนายจักรพันธ์ ศรีจันทร์ เป็นคนขับ ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเวลา 18.40 น.เช่นกัน แต่ชาวบ้านระบุด้วยว่า รถบรรทุกพ่วงหลายคันที่ไม่คลุมผ้าใบและบรรทุกขยะเต็มพ่วงไม่ได้วิ่งบนถนนสายหลัก แต่กลับเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกถนนสหกรณ์บ้านโคกสนั่น ต.วังน้ำเย็น โดยไม่ทราบจุดหมาย สอดคล้องต่อรายงานที่เจ้าหน้าที่ได้รับคือ รถพ่วงหลายคันได้ขนขยะเข้าไปขายให้แก่โรงงานรับซื้อของเก่าในพื้นที่

ขณะที่ นายณัฏฐชัย นำพูนสุขสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้เข้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่ามีการขนย้ายขยะไปขายให้แก่ร้านรับซื้อของเก่าใน จ.สระแก้ว ตามที่ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตหรือไม่ โดยขณะนี้ได้รับแจ้งจากร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาได้มีรถบรรทุกพ่วงขนพลาสติกมาไว้โกดังจริง เนื่องจากเป็นการซื้อขายกันโดยตรงกับร้านอริสา รีไซเคิล จ.ระยอง และไม่ทราบว่าเป็นพลาสติกที่ขนมาจาก อ.วังน้ำเย็น

“ในส่วนของการดำเนินการนั้น เจ้าของโรงงานรับซื้อของเก่าจะปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าพลาสติกดังกล่าวนำมาจาก อ.วังน้ำเย็น ไม่ได้ อย่างไรก็ดี จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เข้าตรวจสอบว่าเป็นขยะของกลางที่มีคำสั่งให้ขนย้ายกลับพื้นเดิมหรือไม่” นายณัฏฐชัย กล่าว

ด้าน นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัด เข้าตรวจสอบตามหลักฐานที่ชาวบ้านส่งให้ทั้งภาพถ่ายและคลิปรถยนต์ต้องสงสัยที่วิ่งจากจุดขนย้ายใน อ.วังน้ำเย็น ออกนอกเส้นทางและได้นำของกลางมาขายให้แก่ผู้อื่น ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมจังหวัด ได้ทำการอายัดของกลางประมาณ 5 ตันไว้แล้ว และหากตรวจสอบ พบว่า เป็นการกระทำความผิดจริง ก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกด้าน

“ส่วนร้านนุกูกุลตู้แช่ ซึ่งเป็นจุดที่มีการขนถ่ายขยะลง เบื้องต้น พบความผิดคือไม่ได้ลงทะเบียนรับซื้อของเก่าตามกฎหมาย และไม่มีการลงทะเบียนบันทึกการซื้อขายต่างๆ อย่างละเอียด รวมทั้งรับซื้อของเก่าหลังเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนความผิดของบริษัทซันเทคฯ คือไม่ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงานการนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) ที่ให้ขนของกลางไปเก็บที่ต้นทาง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างรอการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง” นายวิชิต กล่าว