xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงตู่” ทายังหายเจ็บมือมาแล้ว “หญ้าเอ็นยืด” สูตร ม.แม่ฟ้าหลวง แพทย์บูรณาการศาสตร์ไทย-จีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เชียงราย - สำนักแพทย์บูรณาการ ม.แม่ฟ้าหลวง เตรียมนำโชว์งานวิทย์ฯ ตุลาฯ นี้ ศาสตร์ผสมการแพทย์ไทย-จีนหนึ่งเดียวในโลก เผยทำ “เจลหญ้าเอ็นยืด” หนึ่งในผลิตภัณฑ์สุดเจ๋ง เคยทามือ “ลุงตู่” จนหายเจ็บมาแล้ว

รศ.ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) และ ศ.ดร.สุจิตรา วงศ์เกษมจิตต์ รองอธิการบดี รวมทั้ง ดร.พญ.สุลัคนา น้อยประเสริฐ รักษาการคณบดีสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ มฟล.ร่วมกันแถลงข่าว ณ ห้องประดู่แดง 2 อาคารพลเอกสำเภา ชูศรี มหาวิทยาลัยฯ ถึงเปิดสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการขึ้นเป็นครั้งแรก

โอกาสเดียวกันนี้ยังมีการแสดงนิทรรศการผลงานของหลักสูตรต่างๆ ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้ต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการนำสมุนไพรพื้นเมืองมาสกัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้นและได้คุณภาพมาตรฐาน ซึ่งทาง รศ.ดร.ชยาพร ได้ยกตัวอย่างกรณีหญ้าเอ็นยืด สมุนไพรพื้นเมืองที่ได้นำมาสกัดเป็นเจลนาโนหญ้าเอ็นยืด บรรจุในหลอดขนาดพอดีมือ ซึ่งตอน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาฏิบัติราชการที่มหาวิทยาลัยฯ เมื่อเร็วๆ นี้และมีอาการเจ็บมืออยู่ จึงนำเจลนาโนหญ้าเอ็นยืดทาให้ ก็หายอย่างรวดเร็ว

รศ.ดร.ชยาพรกล่าวว่า มหาวิทยาลัยฯ มุ่งมั่นพัฒนาหลักสูตรด้านการดูแลรักษาสุขภาพ เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพโดยไม่ต้องป่วยก่อนเป็นอันดับแรก กระทั่งมีการตั้งสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการขึ้นมาใหม่ แยกหลักสูตรออกมาจากสำนักวิชาที่มีอยู่เดิม จากการศึกษาค้นคว้าทั่วโลกพบว่าปัจจุบันอเมริกามีวิทยาการทางด้านศาสตร์เหล่านี้สูงที่สุด แต่ มฟล.ก็มีความพิเศษคือ ได้มีการนำเอาการแพทย์แผนไทยประยุกต์เข้ากับการแพทย์แผนจีน ซึ่งยังไม่เคยพบที่ไหนและแตกต่างจากมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ต่างๆ ที่มีการเปิดสอนในศาสตร์ต่างๆ เหล่านี้ด้วย

และหลังการเปิดสำนักวิชาใหม่นี้แล้วยังจะมีการพัฒนาขึ้นอีก โดยในปีการศึกษา 2563 จะเปิดหลักสูตรเพิ่มอีก 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรการแพทย์บูรณาการมหาบัณฑิต และหลักสูตรกายภาพบำบัดมหาบัณฑิต รวมทั้งสำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ ยังมีพันธกิจในการสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์ร่วมกับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และศูนย์บริการสุขภาพครบวงจรแห่งภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชนต่อไป


ศ.ดร.สุจิตรากล่าวว่า ในโอกาสที่ มฟล.ก้าวสู่ปีที่ 21 และได้ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 45 ภายใต้หัวข้อ ต้นกล้านวัตกรรมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ช่วง 7-9 ต.ค.นี้ สำนักวิชาการแพทย์บูรณาการจะแสดงศักยภาพด้วยการจัดประชุมวิชาการนานาชาติร่วม แสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์บูรณาการเพื่อให้นักวิจัย นักวิชาการและผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความรู้กันด้วย

สำนักวิชาใหม่นี้ได้แยกตัวออกมาจากสำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยเปิดสอนสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกติ์ มาตั้งแต่ปี 2548 มีบัณฑิตจบไปแล้ว 188 คน สาขากายภาพบำบัด มีบัณฑิตจบออกไปแล้ว 252 คน ส่วนสาขาการแพทย์แผนจีน เปิดสอนเมื่อปี 2557 ปัจจุบันมีนักศึกษาอยู่ 280 คนที่กำลังจะจบการศึกษาออกไปในปีนี้

ดร.พญ.สุลักคนาบอกว่า บัณฑิตส่วนใหญ่ที่จบออกไปได้ทำงานทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลเอกชน สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือเปิดกิจการเป็นของตัวเอง รวมทั้งสหวิชาชีพอื่นๆ ฯลฯ ขณะที่ภายในสำนักฯก็มีห้องวิจัย มีการผลิตและบุคลากรครบถ้วนสามารถให้บริการทางวิชาการและสนับสนุนทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี

กำลังโหลดความคิดเห็น