กาฬสินธุ์-ญาตินักเรียนม.6 เสียชีวิตด้วยไข้เลือดออกเดงกี่ จี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เร่งสอบขั้นตอนรับผู้ป่วยโรงพยาบาลหนองกุงศรี หลังปล่อยผู้ป่วยช็อคเสียชีวิต พ้อไม่เห็นแม้แต่เงาผู้บริหาร สสจ.กาฬสินธุ์เยี่ยมงานศพ
จากกรณีน.ส.หัทยา หงษ์ชารี หรือน้องกุ๊กไก่ อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนดงมูลวิทยาคม อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่เดงกี่ ซึ่งผู้ปกครองและญาติติดใจขั้นการรักษาของโรงพยาบาลหนองกุงศรี เนื่องจากนำตัวลูกสาวส่งไปยังโรงพยาบาลแล้ว แต่ให้กลับบ้านและให้มาตรวจใหม่ จนทำให้น้องกุ๊กไก่ช็อค ต้องส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เสียชีวิตในที่สุด กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งให้สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในขั้นตอนรักษา หากพบว่าเป็นข้อบกพร่องไม่เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนและละเว้นจะถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ล่าสุดวันนี้ (17ก.ค.62) นายสมบูรณ์ หงษ์ชารี อายุ 48 ปี พ่อน้องกุ๊กไก่ กล่าวว่าไม่มีใครอยากให้น้องกุ๊กไก่เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก ผู้เป็นพ่อ แม่ ยิ่งแทบจะทำใจรับไม่ได้ ต้องสูญเสียลูกสาวไปกะทันหัน น้องอายุยังน้อยเป็นเด็กเรียนเก่ง นิสัยดี จะเป็นเสาหลักของครอบครัวในอนาคต ถึงขณะนี้ตนและญาติยังติดใจว่า หากวันนั้นที่นำตัวลูกสาวส่งโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่รับตัวไว้รักษา ให้อยู่ใกล้มือหมอใกล้เครื่องมือแพทย์ ลูกสาวอาจจะไม่มีอาการช็อค อาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้
ทราบว่าขณะนี้สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงขั้นตอนการรับรักษา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลหนองกุงศรี เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุที่ให้ตนนำลูกกลับไปบ้านแล้วค่อยกลับมาใหม่ จนทำให้ลูกช็อคและเสียชีวิต เรื่องดังกล่าวอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบบและขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมกับลูกสาว และให้คณะกรรมการและสำนักงานสาธารณสุขเร่งดำเนินการตรวจสอบ ให้มีคำตอบที่ชัดเจน ให้ความกระจ่างกับญาติและสังคม
นอกจากประเด็นการรับรักษาของโรงพยาบาลแล้ว ทางครอบครัวสงสัยว่าการเสียชีวิตของน้องกุ๊กไก่ครั้งนี้เป็นรายแรกที่ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกของจ.กาฬสินธุ์ในปี 2562 นี้ และขั้นตอนการเข้ารับการรักษายังเป็นที่ติดใจของญาติ นอกจากนี้หลังสูญเสียน้องกุ๊กไก่ ที่สร้างความเศร้าใจกับครอบครัวและญาติ กลับไม่เห็นมีผู้บริหารของหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงมาเยี่ยมให้กำลังใจในงานศพแม้แต่วันเดียว โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานสาธารณสุขระดับจังหวัด
“เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ขอให้เป็นอุทาหรณ์ ให้ลูกสาวตนเป็นคนสุดท้าย ที่เสียชีวิต เพราะขาดความเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวร สำหรับตนหมดความเชื่อถือแล้วกับโรงพยาบาลแห่งนี้ หากไม่จำเป็นก็จะไม่ไปเข้ารับการบริการที่โรงพยาบาลแห่งนี้อีก” นายสมบูรณ์กล่าว
ด้านนายเดชา แก้วมงคล อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 38 หมู่ 13 บ้านคำขาม ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ญาติน้องกุ๊กไก่ กล่าวว่า ประเด็นที่พ่อแม่และญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต อยู่ที่ขั้นตอนรับตัวคนไข้ ที่อาจจะหย่อนยาน บกพร่อง ไม่มีประสิทธิภาพ ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนองกุงศรีที่เข้าเวรช่วงเวลา 04.00 น.หรือไม่ เพราะพ่อพาน้องกุ๊กไก่ไปหาหมอ ซึ่งอาการหนักมากแล้ว แต่กลับบอกให้พาตัวกลับบ้านก่อน ค่อยไปตรวจอีกทีในเวลา 08.00-09.00 น. กระทั่งทรุดหนัก ต้องส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13ก.ค. ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์
แม้ว่าทางสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่เข้าเวรช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว ตนอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้น้องกุ๊กไก่ด้วย ไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับใครอีก ดังนั้นการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ อยากให้มีบุคคลภายนอกเข้าไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ต้องให้เจ้าหน้าที่ถูกตรวจสอบพักราชการหรือออกจากพื้นที่ไปก่อน คนที่บกพร่องต่อหน้าที่ก็ควรได้รับการลงโทษด้วย
ด้านนายแพทย์พรพัฒน์ ภูนากลม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาคู ในฐานะผู้เชี่ยวชาญสาขาศาสตร์ป้องกัน (ระบาดวิทยา) ซึ่งเป็นตัวแทนสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังรอผลการตรวจเลือดยืนยันสายพันธุ์ของโรคไข้เลือดออกจากกรมควบคุมโรค คาดว่าสัปดาห์หน้าจะรู้ผล ส่วนขั้นตอนการรับตัวผู้ป่วยรักษานั้นจะปรับปรุงขั้นตอนรับตัวผู้ป่วยในสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนการตรวจสอบประเด็นที่ญาติติดใจรับตัวผู้ป่วยนั้น ขณะนี้มีทีมเยียวยาลงพื้นที่แล้ว ยืนยันว่าแพทย์ และพยาบาลปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่อยากให้มองว่าใครผิดใครถูกและโทษใคร
