เลย-จ.เลยแล้งหนักรอบ 10 ปี หลังเกิดฝนทิ้งช่วงนาน ทั้งระดับน้ำโขงลดลงอย่างน่าห่วง จนสามารถมองเห็นสันทราย โขดหิน ที่แก่งคุดคู้ เผยกระทบชาวบ้านอาศัยริมโขง ไม่สามารถสูบน้ำทำการเกษตรได้ ทั้งข้าวนาปีหว่านไว้ตายหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งจังหวัดเลย เริ่มส่อเค้าทวีความรุนแรง พบแม่น้ำโขงลดแห้งเร็วกว่าปกติในรอบ 10 ปี แม่น้ำโขงตั้งแต่อำเภอเชียงคาน ถึงอำเภอปากชม ระดับน้ำแห้งจนเห็นสันดอนทรายเป็นทางยาว เป็นเกาะแก่งกลางน้ำโขง โดยเฉพาะแก่งคุดคู้ จะเห็นโขดเห็นโผล่ให้เห็นชัดเจน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำโขง เริ่มได้รับผลกระทบไม่สามารถสูบน้ำมาใช้ทำการเกษตรได้
นายอดุลย์ ผลคำ ผู้ใหญ่บ้านน้อย หมู่ที่ 4 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย เปิดเผยว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม่น้ำโขงได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็วลดไปแล้วเกือบ 2 เมตร หลังจากมีกระแสข่าวว่าเขื่อนจีนไม่ระบายน้ำออกมา ประกอบลำน้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขงต่างเหือดแห้งลง ปกติช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี ระดับน้ำโขงจะเต็มตลิ่ง แต่มาปีนี้ต้องบอกว่าแห้งสุดในรอบ 10 ปี จนเห็นสันดอนทราย เกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ปีนี้แก่งคุดคู้ สามารถมองเห็นหินและหาดทรายอีกครั้ง หลังไม่เคยเห็นมากว่า 10 ปี
“ปกติแก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอ.เชียงคาน ช่วงเดือนกรกฎาคมจะมีน้ำเต็มตลิ่ง จะเห็นหาดทรายได้ก็เฉพาะช่วงฤดูแล้งเท่านั้น ส่วนเรื่องทำการเกษตรไม่ต้องพูดถึง ชาวบ้านในอำเภอเชียงคานยังไม่มีใครปักดำนาปีได้เลย ชาวนาบางรายที่หว่านข้าวไว้ก็แห้งตายไปหมด ถือว่าปีนี้แล้งสุดๆ น้ำโขงแห้งมากจนไม่สามารถสูบขึ้นมาใช้ได้ ช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่มาเชียงคาน จะมองเห็นหาดทรายเป็นทางยาวจนถึงอำเภอปากชมแล้ว”นายอดุลย์ กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่สำรวจอุทกวิทยาที่ 8 เชียงคาน กล่าวว่าสถานการณ์น้ำโขงในจุดอำเภอเชียงคาน ระดับแม่น้ำโขงยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 11ก.ค.ที่ผ่านมา ระดับน้ำโขงได้ลดลงเฉลี่ยวันละ 30-40 เซ็นติเมตรต่อวัน และมีแนวโน้มที่ระดับน้ำโขงจะลดลงต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จึงได้ประสานทางอำเภอเชียงคาน อำเภอปากชม แจ้งเตือนประชาชนอาจส่งผลกระทบกับการทำเกษตรของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดลำน้ำโขงได้