สุรินทร์ - แล้งวิกฤตหนัก! “เขื่อนห้วยเสนง” แหล่งน้ำดิบผลิตประปาเลี้ยงเมืองช้างแห้งสุดในรอบ 40 ปี เหลือน้ำผลิตได้ไม่ถึง 2 เดือน พบนกกระสาหลายพันตัวอพยพหากินก้นอ่างที่แห้งขอด ชาวโซเชียลฯ ผวาไม่มีน้ำใช้ แห่ตามหาผู้ว่าฯ หายหน้าไปไหนไม่พบออกมาแก้ปัญหา ปล่อยหน่วยงานอื่นดิ้นฝ่าวิกฤตกันเอง
วันนี้ (15 ก.ค.) สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ยังคงรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง หลังจากฝนทิ้งช่วงมาร่วม 2 เดือน ส่งผลให้ต้นกล้าข้าวเริ่มทยอยเหี่ยวเฉายืนต้นตายกันทุกพื้นที่ แม้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้นำเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตรมาบินโปรยสารเคมีเพื่อทำฝนเทียมอย่างต่อเนื่องแต่ยังมีฝนตกน้อย
ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ อยู่ในขั้นวิกฤตหนัก ปริมาณน้ำลดระดับลงแห้งขอดมากที่สุดในรอบ 40 ปีนับตั้งแต่มีการสร้างและเปิดใช้อ่างเก็บน้ำครั้งแรกเมื่อปี 2520 และเป็นอ่างเก็บน้ำหัวใจหลักของคนเมืองสุรินทร์เพราะเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาหล่อเลี้ยงเขตเมืองสุรินทร์เดือนละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) แต่ล่าสุดมีปริมาณน้ำเหลือเพียงไม่ถึง 2 ล้าน ลบ.ม. จากขนาดความจุอ่าง 20.8 ล้าน ลบ.ม. สามารถใช้น้ำผลิตประปาได้อีกไม่เกิน 2 เดือนเท่านั้น
จากสภาพอ่างเก็บน้ำที่แห้งขอดดังกล่าวส่งผลให้มีฝูงนกกระสาพากันอพยพบินเข้ามาหากินสัตว์น้ำตามแหล่งน้ำที่แห้งขอดเป็นจำนวนมากหลายพันตัวอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนอีกด้วย และสถานการณ์น้ำที่แห้งวิกฤตหนักดังกล่าวส่งผลให้การประปาส่วนภูมิภาค สาขาสุรินทร์ ต้องออกประกาศให้ประชาชนสำรองน้ำไว้และใช้น้ำอย่างประหยัด โดยจะมีการลดแรงดันประปาน้ำลง จะส่งผลกระทบให้น้ำประปาไหลอ่อนและไม่ไหลในบางช่วงเวลา
ขณะที่กระแสในโลกโซเชียลมีเดียเริ่มตื่นตัวถึงสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงแห้งวิกฤต ต่างเริ่มหวั่นวิตกเกรงจะมีน้ำไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาเลี้ยงคนเมืองช้าง จึงมีการแชร์ข้อมูลข่าวสารตามเพจต่างๆและวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานการณ์ภัยแล้งอย่างกว้างขวางไปต่างๆ นานา ขณะเดียวกันมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปถึง นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ที่ย้ายมารับตำแหน่งได้ประมาณ 1 ปีและอีก 2 เดือนหน้าก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ประชาชนต่างตั้งข้อสงสัยไม่พบว่าผู้ว่าฯ สุรินทร์ออกมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านและช่วยแก้ปัญหาวิกฤตภัยแล้งในครั้งนี้เฉกเช่นผู้ว่าจังหวัดอื่นๆ สวนทางกับสโลแกนที่ระบุไว้ว่า “คิดไม่ออกบอก ผู้ว่าฯ ประภัสสร์ เป้าหมายในการทำงาน ทำงานให้ประชาชนมีความสุข ประชาชนชื่นใจ”
ทั้งนี้พบเพียงหน่วยงานอื่นๆ ทั้งหน่วยทหาร และ อบจ.สุรินทร์ ที่ให้ความใส่ใจในเรื่องนี้ โดยเฉพาะ พล.ต.พิเชษฐ์ อาจฤทธิรงค์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ ที่ได้ขอความร่วมมือจาก นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ เขต 1, นายประเทือง วันดี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุรินทร์ และนายวิทยา อัปมาโถ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ นายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายก อบจ. สุรินทร์ ได้นำเครื่องจักรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์เข้าทำการขุดลอกดินในอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ให้มีความลึกเพื่อใช้กักเก็บน้ำให้ได้มากขึ้นเมื่อมีฝนตกลงมา รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำประปาหล่อเลี้ยงชุมชนเมืองสุรินทร์
พร้อมประสานหน่วยงานต่างๆ ทำการขุดร่องน้ำที่มีอยู่ในแอ่งต่างๆ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงให้ไหลไปรวมกันที่จุดบริเวณเครื่องสูบน้ำผลิตประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสุรินทร์ และขอรับการสนับสนุนฝนหลวงในการทำฝนเทียมเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และเหนืออ่างเก็บน้ำ ซึ่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ได้ขึ้นบินทำฝนเทียมทุกวัน วันละ 2-3 เที่ยว มาร่วม 2 สัปดาห์แล้ว
รวมทั้งได้ขอให้ทุกหน่วยงานที่มีเครื่องมือเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมเพื่อให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน ทั้งการขุดบาดาลโดยรอบอ่างเก็บน้ำเพื่อสูบน้ำเข้าอ่าง และหาแหล่งน้ำดิบจากแหล่งอื่นๆ ที่มีโดยรอบอ่างเก็บน้ำเพื่อผันน้ำมาช่วย เช่น อ่างน้ำตาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ จากฝายขั้นน้ำลำชี บริเวณบ้านใหม่ และน้ำจากบ่อระเบิดหินจากเขาสวาย เป็นต้น
ที่สำคัญ ให้มีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนให้รับรู้รับทราบข้อเท็จจริง ไม่ต้องตื่นตระหนกกับวิกฤตในครั้งนี้ เนื่องจากทุกภาคส่วนได้มีแนวทางและการวางแผนเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะสามารถมีน้ำประปาใช้ไปจนผ่านวิกฤตหรือจนกว่าฝนจะตกลงมาตามฤดูกาล แต่ที่สำคัญขอความร่วมมือประชาชนได้ใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด