เชียงราย - พาณิชย์หนุนเครือข่ายบิสคลับฯ ยึด “เถาเป่าโมเดล” คัด 5 กลุ่มสินค้า 120 สินค้าเอสเอ็มอีทั่วไทยเปิดตัวบนเวทีจีเทคสิ้นเดือนนี้ ก่อนลุยปลุกปั้นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นนำร่องจันทบุรี นครพนม ลำปาง ราชบุรี ฯลฯ
หลังเครือข่ายบิสคลับ ประเทศไทย องค์กรในเครือข่ายกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินโครงการพัฒนาตลาดสินค้าธุรกิจขนาดกลางและย่อม หรือเอสเอ็มอี ให้แก่สมาชิกทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด คัดสรรสินค้านำเสนอในตลาดทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์
ซึ่งเป็นการประยุกต์มาจาก "หมู่บ้านเถาเป่า สป.จีน" ที่เดิมเป็นเพียงหมู่บ้านในเมืองเหอเจ๋อ มณฑลซานตง และชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม ต่อมาได้มีผู้เข้าไปพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านระบบออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซ ทำให้กลายเป็นศูนย์กลางของผู้ค้าออนไลน์ จนสามารถแก้ปัญหาความยากจนของเมืองเหอเจ๋อได้นั้น
ล่าสุด นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานบิสคลับ ประเทศไทย ได้นำคณะกรรมการคัดเลือกสินค้าที่เอสเอ็มอี นำเสนอและผ่านเกณฑ์ประมาณ 200 ราย เพื่อคัดสรรให้ได้สินค้าเกรดคุณภาพจำนวน 120 ราย นำออกเสนอขายผ่านระบบออนไลน์ของเครือข่ายที่จะดำเนินการ โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มอาหารและเครื่องปรุงรส กลุ่มเครื่องสำอาง กลุ่มกาแฟ กลุ่มข้าว และกลุ่มเกษตรอินทรีย์
นายพัฒนากล่าวว่า สินค้าที่ไม่ได้รับการคัดสรรในรอบแรกก็จะได้รับคำแนะนำให้นำผลิตภัณฑ์ไปปรับปรุงเพื่อให้เข้าเกณฑ์แล้วเสนอมาใหม่ ส่วนที่ได้รับการคัดเลือกแล้วจะนำเข้าระบบก่อนภายในเดือนนี้ เพื่อนำเสนอในการประชุมสัมมนานานาชาติเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จีเอ็มเอส หรือจีเท็ค ครั้งที่ 1 (GMS-THAILAND E-COMMERCE CORRIDOR:GTEC) ซึ่งจะจัดขึ้นที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 29-31 ก.ค. 62
เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ตลาดได้รับรู้แหล่งจำหน่ายสินค้าที่ได้รับมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลโดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ มีกำลังผลิตเพียงพอต่อการขยายตลาด มีความพร้อมในการส่งออก มีฉลากครบถ้วน เก็บไว้ได้นานไม่ต่ำกว่า 1 ปี ไม่อ้างสรรพคุณเกินจริง ไม่เสียหายง่าย ฯลฯ
ในการประชุมจีเท็คยังจะมีการลงนามข้อตกลงหรือเอ็มโอยูระหว่างหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการค้าออนไลน์ เช่น กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าภาคเหนือ บิสคลับประเทศไทย สมาคมมิตรภาพไทย-เซินเจิ้น สภาการค้าในกลุ่มจีเอ็มเอส เป็นต้น โดยจะมีการนำเสนอรายละเอียดของสินค้าตั้งแต่การผลิต การคัดสรร ตลาดผ่านแพลตฟอร์มใหม่ วิธีการซื้อ-ขาย ฯลฯ
“หลังจากนี้เราจะขยายผลต่อไปยังจังหวัดนำร่อง คือ จันทบุรี นครพนม ลำปาง ราชบุรี ฯลฯ เพื่อให้เอสเอ็มอี สามารถขายสินค้าได้ทั่วโลกได้ รวมทั้งยังสามารถค้าขายกันภายในเครือข่ายหรือบีทูบี ที่ล่าสุดก็มีผู้ประกอบการโรงแรมสั่งซื้อรองเท้าสลิปเปอร์จำนวนมากจากกลุ่มเอสเอ็มอีรายหนึ่งด้วย”
ด้าน ดร.ภควัต รักศรี ประธานบริหารตลาดออนไลน์และโลจิสติกส์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอสเอ็มอีไทยมีการผลิตสินค้าออกมามากมาย แต่ปัญหาคือไม่มีตลาด และไม่มีการบริหารจัดการให้ตรงความต้องการของตลาดที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ บิสคลับ ประเทศไทยจึงเสนอแนวทางพัฒนาเอสเอ็มอีในทุกมิติ ภายใต้ข้อกำหนดว่าสินค้าต้องมีอัตลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่นนั้นๆ โดยไม่ซ้ำซ้อนกัน เป็นสินค้าที่ขายได้จริง และเมื่อมีคำสั่งซื้อ ก็ต้องผลิตให้ได้ทันด้วย รวมทั้งยังสามารถค้าขายกันภายในเครือข่ายกันเองหรือบีทูบีได้
