xs
xsm
sm
md
lg

ลูกหนี้สุดทน แจ้งจับเจ้าหนี้เมืองชัยนาทดอกเบี้ยโหด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชัยนาท - แม่ค้าเมืองชัยนาท สุดทน กู้เงินหมื่นเดียวจ่ายดอกเบี้ยเป็นแสน แต่เงินต้นไม่ลด ซ้ำพอหยุดส่งดอกกลับถูกคิดเงินทบต้นเพิ่ม โร่ขึ้นโรงพัก แจ้งตำรวจจับเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด

วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ค้าในพื้นที่ ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท จำนวน 4 ราย เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.นางลือ จ.ชัยนาท และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท ให้ดำเนินคดีเอาผิดต่อหญิงชรา อายุ 64 ปี และลูกชาย อายุ 40 ปี ที่เป็นเจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ ต.นางลือ และมีพฤติกรรมคิดดอกเบี้ยโหด

เนื่องจากพวกตนทนไม่ไหว หลังจากต้องทนรับสภาพการเป็นลูกหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 20 ต่อวัน หรือวันละ 200-500 บาท และแม้ว่าจะจ่ายดอกเบี้ยทุกวันมานานนับปีแล้ว แต่ยอดเงินต้นที่กู้ยืมกลับไม่ลดลง ซ้ำวันไหนผิดนัดชำระดอกเบี้ยก็จะถูกนำดอกเบี้ยที่ค้างจ่ายไปบวกเข้ากับเงินต้น ทำให้ยอดเงินต้นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ที่ร้ายไปกว่านั้น คือ บรรดาลูกหนี้ไม่มีเอกสารการกู้ยืมเงิน และการชำระเงินคืน ทำให้ไม่ทราบยอดหนี้ที่แท้จริง ลูกชายของเจ้าหนี้ ยังพาพรรคพวกบุกไปข่มขู่ทวงเงินถึงบ้าน ทำให้เกิดความหวาดกลัว จึงได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ

นางเอ (นามสมมติ) อายุ 53 ปี หนึ่งในลูกหนี้ให้การว่า ตนได้กู้ยืมเงิน จำนวน 10,000 บาท จากเจ้าหนี้คนดังกล่าว เพื่อนำมาเป็นทุนค้าขาย โดยกู้กันแบบปากเปล่า ไม่มีสัญญาเงินกู้ ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน หรือวันละ 200 บาท ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 โดยครั้งแรกที่กู้เงินจะถูกหักเงินเป็นค่าดอกเบี้ยทันที 200 บาท และค่าเอกสาร 200 บาท ได้รับเงินมาเพียง 9,600 บาท จากนั้นตนก็ได้ส่งดอกเบี้ยวันละ 200 บาทเรื่อยมาทุกวัน เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งรวมดอกเบี้ยที่ชำระไปแล้วเป็นเงินเกือบแสนบาท แต่ยังไม่มีเงินต้นไปชำระ

ต่อมา เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ตนได้หยุดชำระดอกเบี้ยไป เจ้าหนี้จึงเรียกให้ตนไปทำสัญญาเงินกู้เพื่อปรับการชำระหนี้จากรายวัน เป็นรายเดือน โดยให้ตนลงชื่อในกระดาษสัญญาไว้อย่างเดียว ไม่ได้มีการระบุข้อความใดๆ ต่อมาจึงรู้ว่า ตนต้องกลายเป็นหนี้เพิ่มขึ้น จากเงินต้นที่กู้ยืมมา 10,000 บาท กลายเป็น 25,000 บาท และให้ตนชำระหนี้เดือนละ 2,500 บาท ตนจึงบอกว่ายังไม่มีเงิน แต่ถ้ามีก็จะคืนเงินให้ ลูกชายของเจ้าหนี้รายนี้จึงได้บุกไปที่บ้านพร้อมกับชายฉกรรจ์ 3-4 คน ไปพูดจาข่มขู่ทวงหนี้ ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัว

ขณะที่ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ให้การว่า ตนไม่ได้ไปกู้ยืมเงิน แต่เป็นคนค้ำประกันลูกหนี้ที่ไปกู้ยืมเงินกับเจ้าหนี้รายนี้ จำนวน 4 ราย โดยเป็นการค้ำประกันแบบปากเปล่า ไม่มีสัญญา ต่อมาลูกหนี้ 2 ราย ได้หนีไป ทำให้ตนต้องรับภาระชำระหนี้แทน แต่เพราะไม่มีสัญญาเงินกู้ ทำให้ไม่รู้ว่าลูกหนี้ที่หนีไปเป็นหนี้จำนวนเงินเท่าไหร่ แต่เจ้าหนี้มาแจ้งว่าให้ตนชำระหนี้แทน จำนวน 57,000 บาท โดยให้จ่ายดอกเบี้ยวันละ 800 บาท ต่อมาตนได้นำเงินต้นจำนวน 30,000 บาท ไปจ่ายคืน แต่เจ้าหนี้กลับไม่ลดยอดเงินต้นให้ ยังคงเรียกเก็บเงินกับตนตามเดิม ตนและลูกหนี้รายอื่นจึงรวมตัวเข้าแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบเอาผิดกับเจ้าหนี้รายนี้ ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ต่อมา คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยนาท ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งใน ต.นางลือ ที่ถูกระบุว่าเป็นบ้านของเจ้าหนี้เงินกู้ โดยเมื่อเข้าไปในบ้าน พบหญิงชรา อายุ 64 ปี และชายชรา อายุ 73 ปี อยู่ในบ้าน เมื่อตรวจค้นภายในบ้าน พบสมุดจดรายชื่อลูกหนี้ จำนวน 2 เล่ม มีรายชื่อลูกหนี้ประมาณ 10 คน และเอกสารธนาคารจำนวนหนึ่ง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

โดยหญิงชราให้การปฏิเสธ บอกไม่ได้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ แต่ยอมรับว่าให้เงินคนในหมู่บ้านยืมบ้างเป็นครั้งคราว และจำนวนเงินไม่เยอะ ส่วนเรื่องที่มีคนไปติดตามทวงหนี้อ้างว่า เป็นฝีมือของลูกชาย และตอนนี้ลูกชายก็ได้หายออกจากบ้านไปนานหลายเดือนแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเอกสารที่พบนำส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นางลือ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน โดยพนักงานสอบสวนจะได้เรียกตัวหญิงชราคนดังกล่าว มาให้ปากคำ หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะแจ้งข้อหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น