บุรีรัมย์ - แก๊งมิจฉาชีพหลอกซื้อหมูสองผัวเมียบุรีรัมย์ยกคอก 5 ตัว ยกหมูใส่กรงขึ้นชั่งสุดท้ายบอกจะจ่ายแค่ 17,000 บาท เจ้าของหมูทักท้วงเชื่อถูกโกงทำทีไม่พอใจก่อนขึ้นรถขับหนีไม่จ่ายเงิน เมียใจเด็ดกระโดดเกาะท้ายกระบะถูกผลักตกรถบาดเจ็บ สามีขี่ จยย.ไล่ตาม โร่แจ้ง ตร.ล่าตัว
วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีแก๊งมิจฉาชีพเป็นชาย 5 คน อายุประมาณ 25-30 ปี ขับกระบะแบบแค็บ ยี่ห้อวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้าไปทำทีขอซื้อหมูเป็นของ นายธวัชชัย เมฆมนต์ อายุ 29 ปี และ น.ส.อรุณ สุพรรณ อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ที่บ้านหนองไทรงาม ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังจากตกลงราคาซื้อขายกันเรียบร้อยที่กิโลกรัมละ 70 บาท แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวจับหมูในคอกใส่กรงที่เตรียมมาขึ้นชั่งทันที ชั่งเสร็จยกกรงหมูขึ้นใส่หลังกระบะไว้ จากนั้นก็ขับกระบะออกมาบริเวณหน้าบ้านบอกเดี๋ยวไปพูดคุยราคาจ่ายเงินกันที่หน้าบ้าน
สุดท้ายแก๊งมิจฉาชีพกลับบอกว่าหลังหักน้ำหนักกรงออกแล้วเหลือเฉลี่ยตัวละประมาณ 50 กิโลกรัม รวม 5 ตัว จะจ่ายให้ 17,000 บาท สองสามีภรรยาเจ้าของหมูจึงทักท้วงไปว่าให้ราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมาเลี้ยงหมูขายมาแล้ว 7 รุ่น ขายยกคอกครั้งละ 5 ตัวไม่เคยได้ราคาต่ำกว่า 30,000 บาท พอทักท้วงแก๊งมิจฉาชีพทำทีแสดงอาการไม่พอใจ แล้วจู่ๆ พากันเดินขึ้นรถไปหน้าตาเฉยโดยไม่ยอมจ่ายเงินสักบาท น.ส.อรุณ ผู้เป็นภรรยาเห็นท่าทีไม่ปกติจึงได้กระโดดเกาะโซ่ท้ายกระบะเพราะกลัวแก๊งมิจฉาชีพจะหนี พร้อมตะโกนบอกสามีให้มาช่วย แต่คนร้ายไม่สนกลับขับรถออกไปแล้วหนึ่งในแก๊งคนร้ายที่นั่งท้ายกระบะก็ผลักมือ น.ส.อรุณ ออกจนตกรถแขนขาถลอกได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นสามีขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามรถกระบะคนร้ายไป พร้อมตะโกนให้ชาวบ้านช่วยสกัดรถไว้ กระทั่งมีชาวบ้านออกมายืนขวางรถ คนร้ายจึงตัดสินใจกำเงินหว่านออกไปนอกรถเพื่อเป็นค่าซื้อหมูให้ ชาวบ้านจึงช่วยกันเก็บมาให้เจ้าของหมู นับได้รวม 15,000 บาทเท่านั้น
น.ส.อรุณ ผู้เสียหาย เล่าว่า แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมีพิรุธตั้งแต่เอาหมูใส่กรงชั่งทีละ 2 ตัว ซึ่งตามปกติแล้วจะต้องชั่งทีละตัว เพื่อจะได้ทราบน้ำหนักหมูของแต่ละตัว และเมื่อชั่งหมูเสร็จก็ไม่ยอมจ่ายเงินที่หน้าคอกหมูเลย ยังขับรถออกมาใกล้ประตูหน้าบ้านบอกให้ไปคุยกันตรงโน้น กระทั่งบอกว่าจะจ่ายค่าหมูให้แค่ 17,000 บาท ตนจึงทักท้วงไปเพราะเลี้ยงหมูมา 3 เดือนกว่าน้ำหนักไม่น่าจะต่ำกว่าตัวละ 80-100 กิโลกรัม เพราะที่ผ่านมาขายมาแล้วถึง 7 รุ่นไม่เคยได้ต่ำกว่า 30,000 บาท จึงเชื่อว่าน่าจะถูกโกงน้ำหนักอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากจะโกงน้ำหนักแล้วยังเจตนาจะไม่ยอมจ่ายเงินให้อีก
พอคนร้ายขับรถออกไปตนจึงตัดสินใจกระโดดเกาะท้ายรถโดยไม่ทันคิดถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง คิดแค่ว่าจะต้องได้เงินค่าหมูเพราะมีรายได้จากการเลี้ยงหมูเพียงอย่างเดียว แต่เงินที่คนร้ายโยนให้ 15,000 บาทนั้นไม่พอค่าซื้อลูกหมูมาเลี้ยง และค่าอาหารด้วยซ้ำ จึงเข้าแจ้งความอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดีด้วย หากเป็นไปได้ก็อยากให้จ่ายเงินตามความเป็นจริงด้วย
ขณะญาติและชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาให้กำลังใจสองสามีภรรยา และต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พฤติกรรมของคนร้ายไม่ได้แค่ตั้งใจมาฉ้อโกง แต่เป็นการปล้นหมูเลยก็ว่าได้ หากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อยากจะถามว่าทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมให้ได้โดยเร็ว และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อแก๊งดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีก
