ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เต้นผาง! ผู้ว่าฯ โคราชสั่งตั้งคณะกรรมการร่วมลุยตรวจฟัน 4 โรงเรียนชื่อดังงาบงบฯ อาหารกลางวันด็ก ด้าน ศธจ.เผยกำลังรอรายงานข้อมูลเป็นทางการ ขณะองค์กรต่อต้านทุจริตภาค ปชช.จี้เปิดชื่อ 4 โรงเรียนและเอาผิดคนโกงถึงที่สุด
ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ค.) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจาก ป.ป.ช. จังหวัดนครราชสีมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบตามโรงเรียนหลายแห่งพบว่ามีการทุจริตจำนวน 4 โรงเรียน และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะไต่สวนเพื่อชี้มูลความผิดว่า เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทราบเรื่องมีการสั่งการลงมาแล้ว ซึ่งจังหวัดฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่คงต้องรอหนังสือสั่งการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขั้นตอนจากนี้เรากำลังตั้งกรรมการร่วมฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น จังหวัดนครราชสีมา, ป.ป.ช., ท้องถิ่นจังหวัดฯ และศึกษาธิการจังหวัด เพื่อไปตรวจสอบตามที่ทาง ป.ป.ช.มีข้อมูล และลงพื้นที่ไปสุ่มตรวจให้หมด
“ทั้งนี้ เรื่องโครงการอาหารกลางวันก็มีเรื่องเก่าที่เขาเคยเจอ และเขาเคยสุ่มตรวจเจอ ทางจังหวัดฯ เองก็มีหนังสือสั่งการลงไปและพอเปิดเทอมเราก็ติดตามสุ่มตรวจ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการร่วมที่ตั้งขึ้นจะไปตรวจสอบอีกครั้ง ตอนนี้ขอเวลาให้เขาทำงานนิดหนึ่ง” นายวิเชียรกล่าว
ด้าน นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราสีมา กล่าวว่า เรื่องที่ ป.ป.ช.ให้ข้อมูลมีการสุ่มตรวจพบ 4 โรงเรียนพบมีการทุจริตโครงการอาหารกลางวันนั้น ตนได้สอบถามไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครราชสีมา เขต 1 ยังไม่มีข้อมูลที่เป็นทางการ รวมทั้งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดฯเองยังไม่ได้รับข้อมูลที่แจ้งมาเป็นทางการมาจากทาง สพป.นครราชสีมา เขต 1 หรือทางโรงเรียนแต่อย่างใด ตนจึงไม่สามารถให้รายละเอียดข้อมูลได้ ซึ่งทางศึกษาธิการจังหวัดฯ จะได้ประสานกับ สพป.นครราชสีมา เขต 1 เพื่อจะได้ช่วยตรวจสอบข้อมูลตรงนี้
ส่วนกรณีนี้ตามที่ในภาพข่าวเป็นเรื่องการสุ่มตรวจตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมาลงพื้นที่ในเขตตัวเมืองนครราชสีมา ส่วนที่ทางจังหวัดฯ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ตั้งกรรมการร่วมสุ่มตรวจนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งเรื่องเข้ามายังศึกษาธิการจังหวัดฯ และยังไม่มีแจ้งเป็นทางการมาที่หน่วยงาน
สำหรับการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้จริงๆ เป็นหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งเป็นต้นสังกัดโดยตรง และในช่วงเปิดภาคเรียนได้ทราบจาก สพป.นครราชสีมา เขต 1 มีการลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินการโครงการอาหารกลางวันตามปกติ ส่วนผู้ปกครองและประชาชนที่จะช่วยเป็นเบาะแสแจ้งบอกกล่าวนั้น ตนเรียนว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่จะต้องดูแลสวัสดิภาพของบุตรหลานของตนเองที่จะให้ได้รับสิ่งที่ดีจากภาคราชการอยู่แล้ว ถือว่าเป็นที่ทางผู้ปกครองจะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้อยู่แล้ว ส่วนการจะขอข้อมูลจาก ป.ป.ช.หรือไม่นั้น ตนคิดว่าคงไม่ต้อง เพราะเป็นอำนาจของทาง ป.ป.ช.ที่จะดำเนินการ
ขณะที่ นายอานนท์ มฤคศิรมาส แกนนำองค์กรเครือข่ายต่อต้านการทุจริตภาคประชาชน จ.นครราชสีมา กล่าวว่า องค์กรเราขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช.นครราชสีมาได้เปิดเผยรายชื่อโรงเรียนทั้ง 4 แห่งที่มีการทุจริตอาหารกลางวันเด็กให้สาธารณชนและสังคมได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง หายความเคลือบแคลงสงสัย ฐานะองค์กรเครือข่ายต่อต้านการทุจริตภาคประชาชนต้องการให้เด็กๆ และเยาวชนได้รับสิ่งดีๆ จากโรงเรียน รวมถึงอาหาร
ฉะนั้น เมื่อรัฐจัดสรรงบประมาณมาให้ควรจะใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ไปโกงกินกัน ทั้งนี้ หากพบการกระทำความผิด ป.ป.ช.ควรดำเนินการจะเอาผิดให้ถึงที่สุด เพราะที่ผ่านมาหลายโครงการที่ ป.ป.ช.ปล่อยปละละเลย ไม่ชี้มูลความผิด เช่น การทุจริตโครงการสนามฟุตซอล, โครงการขุดลอกของ อบจ.นครราชสีมา ที่ไม่มีความคืบหน้าเลย และอย่าให้เรื่องนี้หายไปเหมือนกรณีต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายจับตามองอยู่