กาฬสินธุ์ - สคบ.ลุยสอบหลังถูกกล่าวหาโยงมีเจ้าหน้าที่ส่งวัตถุดิบและรับส่วยจาก รง.ผลิตยาลดความอ้วนฯ ชี้เป็นการเข้าใจผิดไม่ใช่ สคบ.แต่เป็น ปคบ. เบื้องต้นพบของกลางทั้งยาลดอ้วน-อาหารเสริมเป็นของปลอมทั้งหมด เร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ
ความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.วีระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ขยายผลจากกรณีที่มีหญิงสาวเสียชีวิตเนื่องจากกินยาลดความอ้วนที่ จ.อ่างทอง จนนำมาสู่การสนธิกำลังของตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กำลังทหาร และฝ่ายปกครอง นำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าค้นบ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีชื่อบริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด เปิดเป็นโรงงานผลิตยาลดความอ้วน อาหารเสริม ยาไวอากร้า พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง ทั้งยาลดความอ้วน อาหารเสริม วัตถุดิบที่ใช้ผลิตยา สารต้องห้าม และอุปกรณ์ในการผลิตยาลดความอ้วนจำนวนมากนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (7 ก.ค.) พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. สั่งการให้นายปฐวี เยาวลักษณ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเจ้าหน้าที่ สคบ.จากส่วนกลาง ลงพื้นที่ร่วมกับนายคณิต คงช่วย หัวหน้าสำนักงาน จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ สคบ.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ เข้าสอบปากคำนางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาในคดีผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอม
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมซัดทอดว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สคบ.ส่วนกลางเป็นผู้สั่งสารและส่งวัตถุดิบผลิตยามาให้ โดยสั่งให้ผลิตแล้วส่งขายทางออนไลน์ พร้อมทั้งได้จ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเดือนละ 20,000 บาท เพื่อแลกกับการช่วยให้ลูกสาว ซึ่งอดีตเคยเป็นเภสัชกร ได้ใบอนุญาตหลังจากถูกเพิกถอนไปนานแล้ว
นายปฐวี เยาวลักษณ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคให้ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง ในกรณีที่ผลิตและจำหน่ายยาลดความอ้วน ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่ามีการจ่ายผลประโยชน์ให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สคบ.ที่ส่วนกลางเดือนละหลายหมื่นบาท โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาในเรื่องดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนดังกล่าวจริง
ส่วนกรณีการจ่ายผลประโยชน์ให้เจ้าหน้าที่ สคบ.นั้น จากการสอบพบว่าเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งตัวผู้ต้องหาเองก็ยันยืนว่าไม่ได้สั่งสารผลิตยา จำหน่ายยา และจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ของ สคบ. แต่คาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดในการจำชื่อของหน่วยงาน ซึ่งมีชื่อย่อที่คล้ายๆ กัน เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องสืบสวนและขยายผลต่อไป
ทางด้านนางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหากล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นคนจัดหาสารผลิตยา และให้ขายยาลดความอ้วนและอาหารเสริมให้ รวมถึงทางโรงงานได้จ่ายเงินให้เดือนละ 20,000 บาทนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ปคบ.ไม่ใช่ สคบ.ซึ่งที่อยู่ชั้น 4 ตึกสำนักงาน สคบ. ตนสามารถชี้ตัวและจำหน้าได้อย่างแน่นอน
สำหรับความคืบหน้าในทางคดี ล่าสุด พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ พันธ์ศรี ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ณัฏฐ์ภาณพ วัชระเสวี ผกก.สภ.นามน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำนางวสภัสสร เพิ่มเติม พร้อมทั้งนำกำลังตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจ สภ.นามน เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอต่างๆ กว่า 50 คน เข้าทำการคัดแยกของกลางที่เจ้าหน้าที่ทำการยึดมาจากโรงงาน และโกดังเก็บสินค้า
เบื้องต้นจากการตรวจสอบมีทั้งผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอมหลายยี่ห้อ ที่บรรจุกล่องพร้อมจำหน่าย วัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตยา นอกจากนี้ยังพบว่ามีสารต้องห้ามและควบคุมหลายชนิดที่เป็นของปลอม และคาดว่าจะมีการลักลอบนำเข้ามา โดยเฉพาะสารไซบูทรามีน เฟตามีน และลอร์คาเซริน ชนิดที่ออกฤทธิ์มีผลต่อระบบประสาท กระทบต่อร่างกาย ทำให้นอนไม่หลับ คลื่นไส้ ปวดหัว ความดันโลหิตสูง ประสาทหลอน ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเบื้องต้นของกลางที่ยึดมาได้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของคดี ล่าสุดได้ตั้งชุดเข้ามาคลี่คลายคดี โดยมี พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กำกับดูแลในเรื่องของพนักงานสอบสวน และมี พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ พันธ์ศรี ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ดูแลในเรื่องการสืบสวนและขยายผล เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ในส่วนการขยายผลผู้ที่ร่วมขบวนการหรือมีการซัดทอดใครนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล และสอบปากคำเพิ่มเติม
รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานตามคำสั่งของ พล.ต.อ.วีระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ที่ให้ดำเนินการต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดหากสาวถึงใคร แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากเพราะจะเสียรูปคดี
อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวผู้ต้องหานั้น หลังจากสอบปากคำเสร็จพนักงานสอบสวน สภ.นามน จ.กาฬสินธุ์ จะนำตัวส่งฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหารวม 7 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต 5. ผลิตอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 6. จำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 7. ผลิตและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต