xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป)อธิบดีกรมการแพทย์ย้ำผู้ป่วยมะเร็งใช้น้ำมันกัญชาต้องควบคู่เคมีบำบัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุดรธานี-รพ.มะเร็งอุดรฯพร้อมภาคีเครือข่ายลงพื้นที่เยี่ยม “อำนวย”หญิงป่วยมะเร็งใช้น้ำมันกัญชารักษาควบคู่คีโมแล้วอาการดีขึ้น หมอชี้ก้อนมะเร็งลดเพราะยาเคมีบำบัด ส่วนน้ำมันกัญชาอาจทำให้สภาพร่างกายจิตใจดีขึ้น หากใช้ควบคู่ต้องปรึกษาหมอ



จากกรณีที่มีการพูดถึงกันอย่างมากเมื่อผู้ป่วยมะเร็งตับ น.ส.อำนวย จันทร์ขาว หญิง ชาว จ.หนองคายอัดคลิปวิดีโอของตนโพสต์ลงไลน์กลุ่มและมีการแชร์ออกสู่สื่อโซเชียลอย่างแพร่หลาย โดย น.ส.อำนวย กล่าวถึงการใช้น้ำมันกัญชาช่วยให้ตนมีอาการดีขึ้นแทบจะใกล้หายป่วยจากโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย

ล่าสุด นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าหลังได้รับทราบเรื่องคลิปดังกล่าวแล้ว ทางคณะบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี กรมการแพทย์ พร้อมด้วยโรงพยาบาลท่าบ่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมหญิงสาวรายดังกล่าว พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ผู้ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะผ่าตัดมาหลายปี และตรวจพบมะเร็งลามไปตับ โดยผู้ป่วยได้ให้ข้อมูลว่า มีการเริ่มใช้สารสกัดกัญชามา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561

ซึ่งอาจจะส่งผลให้อาการดีขึ้น คือ เหนื่อยน้อยลง ทานอาหารได้มากขึ้น อาการแน่นท้องลดลง สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 พบก้อนมะเร็งที่เต้านม จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี แพทย์จึงเริ่มให้ยาเคมีบำบัด โดยภายหลังจากการให้เคมีบำบัดมา 3 รอบแพทย์เจ้าของไข้ตรวจพบว่า ทั้งก้อนมะเร็งที่เต้านมและที่ตับมีขนาดเล็กลง
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมะเร็งอุดรและตัวแทนภาคีเครือข่ายลงพื้นที่เยี่ยม น.ส.อำนวย จันทร์ขาว ที่บ้าน จ.หนองคาย
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า จากกรณีนี้ผู้ป่วยมีการใช้สารสกัดกัญชามาก่อนการใช้ยาเคมีบำบัด ซึ่งอาจจะมีผลดีในด้านกระตุ้นความอยากอาหาร ลดอาการปวดท้องสามารถทำให้คนไข้หลับพักผ่อนได้ดีขึ้น จึงมีสภาพร่างกายจิตใจโดยรวมดีขึ้น
น.ส.อำนวย จันทร์ขาว ผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย ใช้น้ำมันกัญชาป้ายใต้ลิ้นแล้วอาการดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยและแพทย์เจ้าของไข้ พบก้อนมะเร็งที่เต้านมและตับยุบตัวลงมากหลังจากได้รับเคมีบำบัด ซึ่งผู้ป่วยยืนยันที่จะรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานีโดยใช้ยาเคมีบำบัดควบคู่ไปกับการใช้กัญชาโดยวิธีป้ายใต้ลิ้น ซึ่งถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะใช้สารสกัดกัญชา แต่เซลล์มะเร็งก็ยังแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ดังนั้น ผู้ป่วยควรจะต้องเข้ารับการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
ภาพแรกที่ปรากฏต่อสังคมขณะอัดคลิปขอบคุณน้ำมันกัญชา
อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามขอแนะนำประชาชนว่าสารสกัดจากกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ หากนำมาใช้ในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสม โดยต้องไม่ทิ้งการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์แผนปัจจุบันที่มีอยู่ นอกจากนี้ สารสกัดจากกัญชาอาจทำให้เกิดโทษได้ ดังนั้น การใช้ต้องอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ในเงื่อนไขผู้ป่วยรายกรณี ต้องใช้ในขนาดและปริมาณที่ถูกต้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น