ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านสัตหีบ วอนกรมทางหลวง อย่ารื้อถอน “ศาลเจ้าพ่อแขก” แดนประหารเขาตะแบกในอดีต หลังมีโครงการขยายช่องทางจราจรบนทางหลวงหมายเลข 3 เป็น 6-11 ช่องจราจร อ.สัตหีบ-อ.บ้านฉาง ระยะทาง 10.141 กม.
จากกรณีที่สำนักงานก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้ทำการขยายช่องทางจราจรบนทางหลวงหมายเลข 3 เป็น 6-11 ช่องจราจร ระหว่างพื้นที่ อ.สัตหีบ-อ.บ้านฉาง ระยะทาง 10.141 กม. และได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.2562-14 พ.ค.2564 รวมระยะเวลา 840 วัน ซึ่งการขยายช่องทางดังกล่าวจะต้องตัดทับจุดที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อแขก “แดนประหารเขาตะแบก” บริเวณทางโค้งริมถนนสุขุมวิท กม.ที่ 8 ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่มีอายุเก่าแก่เกือบครึ่งศตวรรษ เนื่องจากศาลดังกล่าวตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2514 หลังนายสมศักดิ์ หรือแขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี (เจ้าพ่อแขก) ฆาตกรฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกัน ถูกประหารด้วยการยิงเป้า
และด้วยความเฮี้ยนของดวงวิญญาณที่ออกมาปรากฏตัวให้ผู้คนได้พบเห็น จึงทำให้ชาวบ้านช่วยกันตั้งศาลเพื่อเชิญดวงวิญญาณให้สิงสถิต จนเป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวบ้านในพื้นที่นับแต่นั้นมา และได้พากันตั้งชื่อศาลแห่งนี้ว่า “ศาลเจ้าพ่อแขก” หรือ “ศาลเจ้าพ่อเขาโค้ง” ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีผู้ใดกล้ารื้อถอนศาลแห่งนี้เนื่องจากหวั่นเกรงแรงอาถรรพ์ จึงทำให้ศาลยังคงตั้งตระหง่านอยู่บนเนินสูงจากระดับพื้นถนนกว่า 3 เมตร และเป็นที่เคารพของชาวสัตหีบที่ขับรถผ่านไปมานั้น
วันนี้ (6 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใน ต.พลูตาหลวง รวมทั้งปู่ ย่า ตา ยายที่เกิดทันในช่วงเวลาของการเริ่มก่อตั้งศาล เพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่จะมีการตัดถนนผ่านศาลเจ้าพ่อแขก “แดนประหารเขาตะแบก” ซึ่งพบว่ายังคงมีชาวบ้านพากันมาจุดธูปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ชาวบ้านได้พากันมากราบไหว้วิงวอนให้ศาลแห่งนี้ไม่ถูกรื้อทิ้ง และยังขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอัญเชิญไปตั้งในสถานที่อันควร เพื่อให้เป็นตำนานเล่าขานสู่คนรุ่นหลังต่อไป
น.ส.อัมพันธ์ คำหอมหวาน อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยิงเป้าเจ้าพ่อแขก บอกว่า ศาลเจ้าพ่อแขก เป็นที่กราบไหว้ขอพรของคนในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมา มีชาวบ้านมากมายขอพร ขอโชคลาภจนสำเร็จเกือบทุกราย และเชื่อว่า ดวงวิญญาณของเจ้าพ่อแขก มีความศักดิ์สิทธิ์ และผู้ใดลบหลู่ก็จะต้องเจอดี และย้อนกลับมากราบขอขมาทุกราย
เช่นเดียวกับ น.ส.ตุ๊กตา อายุ 58 ปี ที่อาศัยอยู่ถนนเลียบชายทะเล ตลาดสัตหีบ เผยว่า เจ้าพ่อแขก เมื่อครั้งมีชีวิตเป็นคนใจดีและมักซื้อขนมมาแจกผู้เฒ่าผู้แก่ และเด็กๆ ในตลาดสัตหีบ จึงทำให้เป็นที่รักใคร่ และเป็นพ่อพระในดวงใจของเด็กและผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้น จนมาถึงวาระสุดท้ายที่ถูกนำตัวเข้าสู่แดนประหาร ทุกคนต่างพากันไปส่งเสียงเรียกจนทำให้ทั่วแดนประหารเต็มไปด้วยเสียงแห่งความเศร้าโศกเสียใจ ซึ่งแม้เวลาจะผ่านไปนานเกือบ 50 ปี ทุกคนในพื้นที่สัตหีบก็ยังคงจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ไม่ลืมเลือน
ทั้งนี้ “ศาลเจ้าพ่อแขก” หรือ “เจ้าพ่อเขาโค้ง” ตามประวัติที่เล่าขานกันมาบอกว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 พ.ย.2514 ซึ่ง นายสมศักดิ์ หรือแขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี ได้ใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกัน ประจำสนามบินอู่ตะเภา ในพื้นที่ ม.4 ต.พลูตาหลวง และในวันที่ 1 ธ.ค.2514 จอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติ ได้มีคำสั่งตามคำประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ให้ผู้บัญชาการสถานีทหารเรือสัตหีบ เป็นประธานทำการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า บริเวณเชิงเขาตะแบก ห่างจุดเกิดเหตุเพียง 1.5 กิโลเมตร
โดยมีเพชฌฆาตเป็นสารวัตรทหารเรือ จำนวน 5 นาย ที่ระดมยิงกระสุนเข้าร่าง นายสมศักดิ์ รวม 25 นัด ทำให้สิ้นใจทันทีในเวลา 14.18 น. นับเป็นการประหารยิงเป้าครั้งหนึ่งของไทยที่กระทำท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก
แต่ด้วยความเฮี้ยนของดวงวิญญาณ ทำให้ชาวบ้านร่วมกันตั้งศาลให้เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ และมีผู้คนกราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน