จันทบุรี - ชุดสืบสวน ตม.จันทบุรี ตามจับผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงหลอกซื้อดาวน์รถยนต์ก่อนเชิดรถหนี ขณะกบดานใน จ.จันทบุรี เบื้องต้น พบผู้เสียหายจำนวนมาก ค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท พร้อมเร่งตามตัวผู้ร่วมขบวนการ
เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง ผกก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.โทสาโรช จิตต์สงวน รอง ผกก. พ.ต.ท.โทศวัส โชติรณพัส สารวัตรตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดงานการข่าวตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 จันทบุรี เจ้าหน้าที่การข่าว กอ.รมน.จันทบุรี ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.ชมพูนุท พงศธรพิพัฒน์ หรือพลอย อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี หลังสามารถติดตามจับกุมได้ที่บ้านญาติใน ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่
การจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการที่มีผู้เสียหายกว่า 20 ราย เข้าร้องต่อกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดต่อ น.ส.ชมพูนุช พงษ์ศรรพิพัฒน์ หรือพลอย และ น.ส.ปวริศา นาครอด หรือ ปุ๋ย หลังถูกทั้ง 2 คน หลอกซื้อดาวน์รถยนต์ก่อนเชิดรถหนีหายไป จนทำให้กลุ่มผู้เสียหายต้องถูกไฟแนนซ์ติดตามทวงค่างวดที่ค้างชำระจนต้องกลายเป็นหนี้สินและได้รับความเดือดร้อน
พฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะทำทีติดต่อเข้ามาในเพจซื้อขายรถมือสอง และแสดงความต้องการซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยอ้างว่าตนเองทำงานมีรายได้พร้อมกับแสดงหลักฐานเงินเดือนซึ่งมีเงินหมุนเวียนนับล้านบาทต่อเดือน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อยอมขายดาวน์รถยนต์ให้ในราคาซื้อดาวน์คันละ 4-8 หมื่นบาท
ส่วนรถจักรยานยนต์จะซื้อดาวน์ในราคา 1-2 หมื่นบาท ส่วนค่างวดที่เหลือทางผู้ต้องหาจะผ่อนชำระกับไฟแนนซ์เอง และจะติดต่อกลับมาเพื่อทำเรื่องเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในการรับผิดชอบค่างวดรถกับทางไฟแนนซ์ในภายหลัง
โดยในช่วงแรกทั้ง 2 คน ยังมีการผ่อนชำระตามปกติ แต่ต่อมา ระยะหลังทั้งคู่กลับเริ่มจ่ายเงินค่างวดรถล่าช้า ก่อนจะเริ่มค้างค่างวดจนทำให้ทางบริษัทไฟแนนซ์ติดต่อมายังเจ้าของรถเพื่อทวงถามถึงค่างวดรถที่ติดค้าง ซึ่งผู้ต้องหาจะอ้างกับเจ้าของรถยนต์ว่า ติดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และเมื่อเจ้าของรถติดต่อขอรถยนต์คืน ผู้ต้องหากลับไม่มาตามนัดและไม่สามารถติดต่อได้
ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกกว่า 20 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท จึงรวมตัวกันมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องขอความเป็นธรรม
จากการสอบสวน น.ส.ชมพูนุท พงศธรพิพัฒน์ หรือพลอย ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ น.ส.ปวริศา นาครอด หรือปุ๋ย ติดติดต่อขอดาวน์รถยนต์และรถจักรยานยนต์ตามเพจซื้อขายรถมือสอง ซึ่งจะเลือกรถตามออเดอร์ที่มีลูกค้าสั่งผ่าน นายเอก และ น.ส.เอ๋ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาแล้วกว่า 80 คัน และจะส่งรถทั้งหมดให้นายหน้าซื้อขายรถผิดกฎหมายเพื่อส่งขายต่อตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อหร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลังพบว่ามีเครือข่ายฉ้อโกงรถหลุดจำนำ ประกอบด้วย นายเอก อายุ 40 ปี และนางเอ๋ อายุ 40 ปี น.ส.ศุภนิดา อายุ 40 ปี น.ส.ศุภนิดา อายุ 40 ปี และยังเป็นนายทุนนำรถไปขายต่อในเพจ รวมทั้ง นายเพชร อายุ 50 ปี ทำหน้าที่นำรถไปชำแหละส่งขายชายแดน