xs
xsm
sm
md
lg

โผล่ขอโทษทุกฝ่ายแล้ว! ชาวชัยภูมิคนปูดจัดฉากมอบโฉนดถูกริบคืน รับผิดพลาดเองทำเข้าใจผิดกันไปใหญ่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชัยภูมิ- โผล่ขอโทษทุกฝ่ายแล้ว! ชาวบ้านชัยภูมิคนบุกร้อง “บิ๊กป้อม” ปูด จนท.จัดฉากมอบคืนโฉนดที่ดินแล้วถูกริบคืน แจงเป็นเรื่องสื่อสารผ่านสื่อมวลชนผิดพลาดคาดเคลื่อนไปเอง ทำเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ขณะผู้การฯชัยภูมิ นัด 2 ฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยอีกครั้งจบด้วยดี นายทุนยอมให้โอกาสไถ่ถอนคืนอีกรอบ

วันนี้ ( 3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีชาวบ้านจากจังหวัดต่างๆในหลายจังหวัดจากอีสาน กว่า 30 ราย เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ภายเป็นประธานพิธีมอบคืนโฉนดที่ดินและทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ครั้งที่ 12 ที่ จ.ลพบุรี ว่า เจ้าหน้าที่มอบคืนโฉนดที่ดินแล้ว แต่ภายหลังมาขึ้นรถตู้กลับบ้านได้ถูกริบโฉนดที่ดินคืน จนกลายเป็นข่าวใหญ่โด่งดังไปทั่วประเทศ
นางแสงจันทร์ บุตรเขียว ชาวชัยภูมิ วัย 48 ปี  ผู้ร้อง

โดยหนึ่งในนั้น คือ นางแสงจันทร์ บุตรเขียว ชาวชัยภูมิ วัย 48 ปี ที่ระบุว่า นำโฉนดที่ดินไปจำนองกับ นางสุพล ผลสมบูรณ์สุข นายทุนเงินกู้ในพื้นที่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ กว่า 300,000 บาท แต่นายทุนให้นำเงินไปไถ่ถอนกว่า 1.7 ล้านบาท ต่อมาได้เข้าสู่กระบวนการในการคืนโฉนดที่ดินของทาง จ.ชัยภูมิ และไปร่วมพิธีรับมอบคืนโฉนดที่ดิน ที่ จ.นครราชสีมา ปรากฏว่าเมื่อเดินทางกลับบ้านได้ถูกริบโฉนดคืนเช่นเดิม ต่อมา พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ชี้แจงว่าการร้องเรียนดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่เป็นการบิดเบือนหวังผลทางการเมืองเพื่อโจมตีนโยบายรัฐบาล เพราะความจริงคือ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เจรจาประนอมหนี้ให้จากต้องไถ่ถอนคืน 1.7 ล้านบาท จนเหลือ 350,000 บาท แต่ฝ่ายนางแสงจันทร์ เองไม่จ่ายเงินไถ่ถอนตามกำหนดที่ตกลงกัน ทำให้การได้รับคืนโฉนดที่ดินมีปัญหาและปัจจุบันโฉนดฉบับจริงยังอยู่ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เก็บเอาไว้ในฐานะคนกลาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น

ล่าสุด ทางด้าน พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผกบ.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้ ติดต่อทั้งฝ่ายนายทุนและลูกหนี้ผู้ร้อง พร้อมจัดบูรณาการร่วมเพื่อเปิดศูนย์ติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาในกลุ่มที่เกิดปัญหายังไม่ได้รับโฉนดคืนทั้งหมดของ จ.ชัยภูมิ ณ ห้องประชุมใหญ่ กองบังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ เพื่อจัดชุดพนักงานสอบสวนมาติดตามรับเรื่องจากประชาชนในกลุ่มปัญหาดังกล่าว เพื่อหาแนวทางเร่งเข้าไปช่วยแก้ปัญหาเพิ่มเติมต่อไป

โดยในส่วนของกรณี นางแสงจันทร์ บุตรเขียว ชาวชัยภูมิ วัย 48 ปี ที่เดินทางไปร้องเรียนกับ พล.อ.ประวิตร ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาพบ พล.ต.ต.สมพจน์ เพื่อกล่าวขอโทษต่อเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ชัยภูมิ ด้วย โดยยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสื่อสารผ่านสื่อมวลชนหลังเข้าพบ พล.อ.ประวิตรคาดเคลื่อนไปเอง จนเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ทั้งที่ความจริงตนไม่มีเงินพอที่จะไปไถ่โฉนดที่ดินดังกล่าวกับนายทุนคืนเอง หลังไปร่วมทำพิธีรับมอบคืนโฉนด ที่จ.นครราชสีมา ตามที่ทางตำรวจชัยภูมิ ได้เป็นตัวกลางเก็บโฉนดจากนายทุนมาไว้ให้เพื่อรอให้นำเงินมาจ่ายค่าไถ่ถอนให้ครบตามจำนวนที่ได้ไกล่เกลี่ยตกลงไว้จาก 1.7 ล้านบาท เหลือ 350,000 บาท


โดยตามที่ได้มีการทำสัญญาใหม่ นั้น แบ่งจ่ายกันเป็น 2 งวด ในระยะเวลา 2 เดือน งวดแรกจำนวน 200,000 บาท และงวดที่สอง 150,000 บาท เมื่อช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา แต่ตนมีเงินไม่พอที่จะจ่ายให้ทั้งหมดได้ทันเนื่องจากระยะเวลา 2 เดือนสั้นเกินไปและขอขยายเวลาเพิ่มไม่ได้ ซึ่งช่วงนั้นมีเงินเพียง 1 แสนบาท จึงนำเงินไปจ่ายบางส่วนเป็นเงิน 30,000 บาท เพื่อรอที่จะหาเงินมาจ่ายให้เพิ่มเติม

“ จนกระทั่งมีการเดินทางร่วมไปขอพบ พล.อ.ประวิตร ที่ผ่านมา เมื่อท่านถามว่าโฉนดได้คืนแล้วเอาไปทำอะไร จึงตอบไปว่ายังไม่ได้คืนเท่านั้น จึงกลายเป็นเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการสื่อสารผิดพลาดและอยากขอโทษทุกฝ่ายที่เข้าข้องด้วย โดยเฉพาะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ที่ประสานทุกฝ่ายให้ช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยกับนายทุนด้วยดีมาตลอด” นางแสงจันทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ได้นัดนายทุนและนางแสงจันทร์ ผู้ร้อง เข้ามาพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง จนนายทุนยินยอมขยายเวลาให้นางแสงจันทร์ นำเงินมาไถ่ถอนโฉนดที่ดินคืนได้ใหม่อีกครั้ง ในระยะเวลาอีก 4 เดือน รวมที่เหลือทั้งหมดจำนวน 320,000 บาท และยินยอมให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เป็นตัวกลางเก็บโฉนดที่ดินไว้ให้จนกว่าจะมีการชำระเงินครบตามจำนวนในเวลา 4 เดือนจากนี้ไป

ขณะที่ นางแสงจันทร์ ขอจบเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นลงด้วยดีและฝากขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายใน จ.ชัยภูมิ ที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก ซึ่งคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้โฉนดที่ดินตัวเองคืนแล้ว และพร้อมที่จะนำเงินที่เหลือทั้งหมดมาจ่ายเพื่อไถ่ถอนที่ดินคืนตามกำหนดต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น