xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอย “บานาน่าโซไซตี้” กรณีศึกษาวิถีปั้นกล้วยตากบางกระทุ่มขึ้นชั้นเวิลด์คลาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิษณุโลก - เปิดกรณีศึกษา “วิถีกล้วยตากบางกระทุ่ม-บานาน่า โซไซตี้” ปั้นกล้วยผึ่งแดดเสิร์ฟบนเครื่องการบินไทย-แอร์เอเชียไม่พอ ได้แรงหนุนจาก บสย.ค้ำประกันกู้แบงก์เสริมสภาพคล่อง-ต่อยอดผลิตภัณฑ์ส่งทำตลาดไกลถึงยุโรป

“กล้วยตากบางกระทุ่มเมืองสองแคว” ที่เคยเป็นกล้วยตากผึ่งแดดแบบพื้นๆ ของฝากติดไม้ติดมือของนักท่องเที่ยว-คนผ่านทาง วันนี้กำลังเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นภายใต้แบรนด์ “บานาน่า โซไซตี้” ที่เหนือชั้นกว่าคำว่า “โอทอป” อย่างเต็มตัว ภายใต้การสนับสนุนจาก บสย.ก้าวสู่กล้วยตากเวิลด์คลาส ทั้งเสิร์ฟบนเครื่องบินการบินไทย ขายบนแอร์เอเชีย วางขายในห้างสะดวกซื้อ รวมทั้งส่งออกทำตลาดต่างประเทศไกลถึงยุโรปด้วย

นายวุฒิชัย ชะนะมา เจ้าของบริษัท บาน่าน่า โซไซตี้ จำกัด เปิดเผยถึงแนวคิดการผลิตและจำหน่ายกล้วยตากก่อนเป็น บานาน่า โซไซตี้ ว่า ยุคปี 2548 ตนยังผลิตกล้วยตากผึ่งแดดริมสถานีรถไฟบางกระทุ่ม เป็นเพียงธุรกิจอยู่ใต้ถุนบ้าน บรรจุถุงขายเป็นของฝากยังตัวเมืองพิษณุโลก

ซึ่งถ้าคิดง่ายๆ ลงทุนซื้อกล้วยเป็นหวีๆ จากชาวบ้านมูลค่า 5 หมื่น ตากแดดขายคงมีกำไร แต่มุมกลับกัน หากฝนตกติดต่อกัน 3 วันสินค้าก็จะเสียหายทั้งหมด ทำให้ช่วงนั้นพยายามคิดค้นและยอมควักกระเป๋าสั่งซื้อโดมพาราโบลาคลุมและอบกล้วยตากเพื่อลดการเสียหาย ไม่ใช่เพื่อกำไรหรือความสวยงามด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นรายแรกของพิษณุโลก หรือรายแรกของประเทศก็ว่าได้

ต่อมาได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ คิดค้นกรรมวิธีอบกล้วยตากให้ได้คุณภาพ จนสามารถขึ้นไปเสิร์ฟบนเครื่องบินของการบินไทย กระทั่งจำหน่ายเป็นสินค้าที่สายการบินแอร์เอเชีย

นายวุฒิชัยเล่าว่า ตอนนั้นดีใจมาก รู้ว่ากล้วยตากเรามีโอกาส แต่ไม่มีความรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ เลยเพราะไม่ได้เรียนมาสูง เคยไปขอยืมเงินกลุ่มญาติๆ เพื่อขยายธุรกิจแต่ก็ไม่มีใครให้ วิ่งไปหาเงินกู้จากธนาคารแห่งหนึ่ง เอาบ้านทั้งหลังกับที่ดิน 1 ผืนไปขอจำนองก็ถูกเอาเปรียบจากแบงก์ กว่าจะได้เงินมา 2 แสนบาทเลือดตาแทบกระเด็นเลยทีเดียว

“จริงๆ ต้องยอมรับว่าราคาประเมินที่ดินของอำเภอบางกระทุ่มนั้นต่ำมาก แทบไม่มีราคา กระทั่งมารู้จักกับ บสย. ซึ่งยอมรับว่าเขาเป็นฮีโร่เลย เพิ่งรู้ว่าเขารับบุคคลค้ำแทนหลักทรัพย์ได้ด้วย” เจ้าของบาน่าน่า โซไซตี้ กล่าว

หลังได้เงินทุนสนับสนุนจาก บสย.ก็ทำให้ต่อยอดผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้หลากหลาย ทั้งกล้วยตากชุบช็อกโกแลต ชุบอัลมอนด์ ฯลฯ กลายเป็นสินค้าพรีเมียม แต่ที่ขายดีในต่างประเทศยังเป็นกล้วยตากธรรมชาติๆ ส่วนตลาดในไทยก็สามารถวางขายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศไทย โดยมีสัดส่วนยอดต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปถึง 35 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมด

แต่ปัญหาที่ตามมาหลังจากบุกทำตลาดปั้นยอดขายไปไกล เพราะร้านคอนวีแนนซ์ที่ส่งไปจำหน่ายล้วนขอเครคิต 30-60 วัน จึงจำเป็นต้องพึ่งธนาคารพาณิชย์เพื่อเสริมสภาพคล่อง ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ของตนนั้นต่ำมาก ถ้า บสย.ไม่ช่วยค้ำประกันสินเชื่ออาจทำให้กิจการสะดุดลงก็ได้ ถือว่าเป็นความโชคดีที่ บสย.ช่วยค้ำประกันเงินกู้แบงก์ ทำให้เพิ่มวงเงินเสริมสภาพคล่อง สามารถขยายการผลิตและตลาดจนโตขึ้นเรื่อยๆ

“วันนี้ยังต้องสั่งเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงคุณภาพให้ทันสมัย ล่าสุดได้คิดค้นนวัตกรรม ทำเป็นไซรัปจากกล้วย ส่วนกล้วยตาก บานาน่า โซไซตี้ ได้โกอินเตอร์และกำลังมุ่งสู่ตลาดนักวิ่งเพื่อสุขภาพ นักกีฬาและนักเดินทางทั่วโลก ถือเป็นแบรนด์สุขภาพอีกด้วย”

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานกรรมการ บสย. กล่าวว่า หลังจากเยี่ยมชมโรงงาน บริษัท บานาน่า โซไซตี้ จำกัด พบว่าเป็นธุรกิจครัวเรือนที่พัฒนามาสู่วิสาหกิจชุมชนรายแรกที่นำเครื่องอบพลังงานแสงอาทิตย์แบบกรีนเฮาส์ (พาราโบลาโดม) กระทั่งปี 2556 ได้ขยายการลงทุนจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมากเพื่อเสริมสภาพคล่องและซื้อเครื่องจักรใหม่ ผลักดันให้กล้วยตากก้าวสู่สินค้าระดับพรีเมียมไปวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศได้

บสย.มองว่า บานาน่า โซไซตี้ เป็นลูกค้าที่มีศักยภาพ จึงพิจารณาค้ำประกันสินเชื่อต่อธนาคารพาณิชย์ ทำให้การขอสินเชื่อง่ายและได้วงเงินสูงขึ้น จนบานาน่า โซไซตี้ได้รับเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มและสามารถซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าเรื่อยๆ โดยขณะนี้ บสย.ได้ค้ำประกันสินเชื่อแล้ว 34 ล้านบาท เสริมธุรกิจบานาน่าโซไซตี้กลายเป็น SMEs ที่แข็งแกร่ง

“หากธุรกิจรายใดๆ ก็ตามต้องการความช่วยเหลือด้านคำปรึกษาทางการเงินและการตลาดก็สามารถติดต่อ บสย.ได้ทุกสาขาทั่วประเทศไทย ซึ่งเรายินดีช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อมทุกกรณี”

กำลังโหลดความคิดเห็น