อปพร.เข้าไปห้ามเหตุทะเลาะวิวาทในงานแห่นาค กลับถูกแทงดับกลางถนน

ชัยนาท - อปพร. วัย 60 กว่าเข้าไปห้ามเหตุทะเลาะวิวาทในงานแห่นาค กลับถูกแทงดับกลางถนน มือแทงเผย เพราะไม่พอใจที่เข้ามาห้ามปรามตนทะเลาะกับคู่กรณี

วันนี้ (29 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต อยู่บนถนนหมู่ที่ 2 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท จึงไปตรวจสอบ พบร่างนายประชัน ภู่เปี่ยม อายุ 62 ปี เป็นอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร. ประจำหมู่บ้าน นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ที่คอข้างซ้ายมีแผลถูกคมมีด และมีเลือดไหลนองเต็มพื้นถนน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสุวรรณ คชารักษ์ หรือนายหม่อง อายุ 54 ปี ได้หลบหนีไปทางสะพานเหล็ก จึงแจ้งตำรวจชุดสืบสวนให้ตามไปจับกุมตัว

สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ช่วงเที่ยงวันนี้ (29 มิ.ย.) นายประชัน ผู้เสียชีวิตได้ออกไปทำหน้าที่อาสาจราจร อำนวยความสะดวกให้แก่ขบวนแห่นาค ที่จัดขึ้นในหมู่บ้านศาลา หมู่ 2 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี ระหว่างที่ขบวนแห่นาคกำลังเคลื่อนขบวนไปยังวัดสังฆาราม นายสุวรรณ คชารักษ์ หรือนายหม่อง ผู้ก่อเหตุ ได้เข้าไปร่วมขบวนแห่นาคด้วยอาการมึนเมา และได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนในหมู่บ้านขณะที่พานาคไปโกนหัวที่วัด

เมื่อกลับมาที่บ้านงาน นายหม่อง ยังไปตามหาตัวคู่กรณี และมีเรื่องทะเลาะกันต่ออีกครั้ง นายประชัน ผู้เสียชีวิตจึงได้เข้าไปห้ามปรามไม่ให้นายหม่อง กับคู่กรณี ทะเลาะวิวาทกัน จากนั้นคู่กรณีก็ได้แยกย้ายกันไป แต่นายหม่อง ได้กลับเข้าไปที่งานอีกครั้งหวังจะเข้าไปทำร้ายคู่กรณีให้ได้ แต่หาตัวคู่กรณีไม่พบ เกิดอารมณ์ค้าง จึงย้อนกลับไปทำร้าย นายประชัน โดยใช้มีดแทงเข้าที่ซอกคอ 1 ครั้ง คมมีดตัดเส้นเลือดใหญ่ล้มลงจมกองเลือดเสียชีวิตทันที

ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สรรคบุรี และตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยนาท ได้ติดตามเส้นทางการหลบหนี โดยไปที่บ้าน นางทองคำ อุบลวงษ์ อายุ 73 ปี แม่ของนายหม่อง ที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเพียง 20 เมตร แต่ไม่พบตัว นางทองคำ ได้วอนขอให้ตำรวจจับตัวลูกชายไปขังคุกให้ได้ เพราะชอบสร้างความเดือดร้อน และชอบทุบตีแม่ตัวเองบ่อยครั้ง และยังบอกว่าลูกชายเคยติดคุกข้อหาพยายามฆ่าตนเองมาแล้ว เพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่กี่ปี

จากนั้นตำรวจได้ตามไปจับกุมตัว นายหม่อง ได้ที่บริเวณริมทุ่งนา หมู่ 4 ต.แพรกศรีราชา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร พร้อมมีดปลายแหลม 2 เล่ม เบื้องต้น นายหม่อง ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุใช้มีดแทงนายประชัน จริง เพราะไม่พอใจที่เข้ามาห้ามปรามตนทะเลาะกับคู่กรณี ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.สรรคบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนศพนายประชัน ได้ให้อาสาสมัครร่วมกตัญญูนำส่งให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลสวรรคประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ผ่าชันสูตรศพตามระเบียบ ก่อนจะส่งให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป