ลำปาง - ตามดูบ้าน “สุบรรณ มหาชนนท์” อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เสรีรวมไทย-1 ใน 4 ผู้ต้องหาเอี่ยวค้าไอซ์ 2 พันล้าน ขณะที่แม่-ญาติไม่เชื่อ ยันมาบ้านแต่ละครั้งไม่มีเงินติดตัว แม่ต้องส่งเงินให้ใช้ด้วยซ้ำ
หลังจากตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดของกลางไอซ์ประมาณ 985 กก. มูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท ที่ซ่อนอำพรางไปกับลังสินค้าประเภทรองเท้าทั้งหมด 632 กล่องในตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมส่งออกไปฟิลิปปินส์ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 2 คน ชาวไทย 2 คน คือ นายสุบรรณ มหาชนนท์ อายุ 57 ปี และนายจ้อย แย่แข็ง อายุ 55 ปี เมื่อ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยกรณีของนายสุบรรณเคยลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสรีรวมไทย ลำดับที่ 50 มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาประกอบธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองในพื้นที่เชียงใหม่ มีการติดต่อส่งออกสินค้าผ่านชาวจีนอยู่เป็นประจำด้วย
วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามลงไปตรวจสอบบ้านของนายสุบรรณ ซึ่งอยู่ที่บ้านเลขที่ 71 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ พบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ยกสูง มีใต้ถุนบ้าน สภาพบ้านก็ทรุดโทรมพอสมควร เนื่องจากสร้างมานานแล้ว และยังมีการต่อเติมห้องบริเวณหน้าบ้านกับใต้ถุนบ้านแต่ยังไม่เสร็จ และมีรถยนต์เก่าจอดในบ้าน 2 ตัน แต่ไม่มีคนอยู่ในบ้าน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่าบ้านหลังนี้มีผู้อาศัยเพียงคนเดียวคือ นางผัน มหาชนนท์ อายุ 88 ปี แม่ของนายสุบรรณ มหาชนนท์ ปกติช่วงกลางวันญาติจะพาไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นร้านขายของชำในหมู่บ้าน เนื่องจากยายผันอายุมากแล้วอยู่บ้านตามลำพังกลัวจะเหงา ประกอบกับมีเรื่องลูกชายจึงไม่อยากให้ยายผัน คิดมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวติดตามไปพูดคุยกับนางผัน ซึ่งหูไม่ค่อยได้ยิน เวลาพูดต้องพูดเสียงดังจึงจะสื่อสารกันได้ เล่าว่า เดิมตนเป็นคนโคราช แต่ด้วยพื้นที่แห้งแล้งจึงย้ายมาอยู่ที่เชียงราย ก่อนจะย้ายมาอยู่แม่เมาะ รับจ้างปลูกสวนป่าเมื่อปี 2511 จนถึงปัจจุบัน
“สุบรรณ เป็นลูกคนเล็ก เรียนหนังสือชั้นมัธยมที่ลำปาง จากนั้นก็ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เป็นคนที่ไม่อยู่บ้าน ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า จะแวะมาหาแม่เดือนละครั้ง หรือนานกว่านั้น ล่าสุดเพิ่งมาเมื่อเดือนเมษายนช่วงสงกรานต์ ก็มาสนุกสนานกันที่บ้านแล้วก็กลับไป จนกระทั่งมารับทราบข่าวจากผู้ใหญ่บ้านว่าลูกถูกจับ ก็ยังไม่เชื่อว่าลูกเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และตอนนี้ก็ติดต่อสุบรรณไม่ได้เลย หากบอกลูกได้จะถามเรื่องความเป็นอยู่ และเรื่องราวว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร”
ขณะที่ญาติก็ไม่เชื่อว่านายสุบรรณจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด เพราะทุกครั้งที่กลับบ้านก็ไม่ค่อยมีเงินติดตัวเลย บางครั้งแม่ก็ต้องส่งเงินให้ลูกด้วย และยังเป็นหนี้ญาติพี่น้องอยู่อีก
โดยครั้งล่าสุดที่นายสุบรรณกลับมาบ้านก็บอกที่บ้านว่าลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หากในพื้นที่โซนเหนือได้คะแนนมากพอก็จะได้เป็น ส.ส. เมื่อได้เป็น ส.ส.ก็จะได้รับเงินเดือน แม่กับญาติพี่น้องก็จะสบายไปด้วย และได้พาทีมงานมาหาเสียงในหมู่บ้าน
ส่วนเรื่องอาชีพ นายสุบรรณก็บอกกับญาติพี่น้องว่ามีอาชีพเป็นทนาย เงินไม่แน่นอน จะได้ก็ต่อเมื่อมีคนจ้างเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่ทราบ เพราะนายสุบรรณไม่ได้อยู่ที่บ้านนานๆ จะมาสักครั้ง และรู้เพียงว่ามีภรรยาและลูกอยู่ที่เชียงใหม่เท่านั้น
