เชียงราย - เผยต้นเหตุ “ร้านกาแฟเชียงรายปัญญานุกูล-ที่ฝึกบาริสตาเด็กพิเศษ”จำใจย้ายจากฝั่งตรงข้าม “อุโบสถขาววัดร่องขุ่น” ไปอยู่หลังวัดฯ จนลูกค้าหาย หลัง พมจ.แลกที่ดินกับเทศบาลฯ ขอใช้ต่อแล้วไม่ได้
หลังมีผู้โพสต์ข้อความและภาพทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่าร้านเชียงรายปัญญาฯ ซึ่งเป็นร้านกาแฟในอาคารพาณิชย์ 2 คูหา เลขที่ 193/4-5 หมู่บ้านร่องขุ่น หมู่ 1 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ประสบปัญหาถูกย้ายไปอยู่เกือบท้ายสุดของถนนหลังวัดร่องขุ่น ห่างจากลานจอดรถออกไปประมาณ 60 เมตร ทำให้ขายไม่ได้ ขอให้นักท่องเที่ยวไปใช้บริการเพราะบาริสตาเป็นเด็กพิเศษที่ต้องการน้ำใจจากสังคม
ล่าสุดวันนี้ ที่ร้านดังกล่าวซึ่งมีโต๊ะเก้าอี้ประมาณ 7-8 โต๊ะ และด้านหน้ามีรถบัสกาแฟที่เหมาะต่อการนั่งจิบช่วงแดดร่มลมตก เริ่มมีนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวพากันไปใช้บริการหนาตามากขึ้น โดยมีครูพี่เลี้ยง และเด็กพิเศษที่ได้รับการฝึกอบรมมาแล้วอย่างดีคอยให้บริการวันละ 4-5 คน แต่ละคนมีความสามารถในการชงกาแฟและชา จำหน่ายในราคาเพียงแก้วละ 30 บาท รวมทั้งยังมีบริการอาหารตามสั่งอีกด้วย
นายกมล ดาระสุวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล กล่าวว่า ทางโรงเรียนฯ ได้ทำร้านกาแฟเชียงรายปัญญาฯ ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ฝึกปฏิบัติงานอาชีพนักเรียน เพราะโรงเรียนจะรับดูแลเด็กพิเศษเพียงแห่งเดียวของจังหวัด และยังมีเด็กๆ พิเศษจากทั่วภาคเหนือหรือบางคนอยู่ไกลถึงกรุงเทพฯ มาเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 6 รวม 437 คน
โดยก่อนหน้านี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก พมจ.เชียงราย ให้เปิดร้านกาแฟภายในที่ดินของ พมจ.บนถนนฝั่งตรงข้ามกับอุโบสถขาวของวัดร่องขุ่นที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี เด็กๆ มีฝีมือในการปรุงชาและกาแฟ รวมทั้งให้บริการนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จนร้านมีรายได้ปีละเกิน 1 ล้านบาท
ที่ผ่านมาทางโรงเรียนจะจัดเด็กๆ ผลัดเปลี่ยนกันมาอยู่ร้านวันละ 4-5 คน และเนื่องจากเราไม่มุ่งหวังผลกำไร ดังนั้นเมื่อหักต้นทุนแล้วเหลือกำไรก็นำแบ่งปันให้แก่เด็กๆ ทุกคนเอาไปฝากธนาคารไว้ ทำให้เด็กที่จบออกไปหลายคนได้รับเงินสะสมคนละ 20,000-30,000 บาทเป็นทุนในการใช้ชีวิตต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ทาง พมจ.เชียงรายได้แลกเปลี่ยนที่ดินกับเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย ทำให้ร้านกาแฟของเด็กๆ ไม่สามาถตั้งอยู่ที่เดิมได้อีก ทางโรงเรียนฯ ทำผ้าป่าการกุศล และได้รับการบริจาคจากกำนันในพื้นที่ซื้ออาคารพาณิชย์ 2 คูหาด้านหลังวัดร่องขุ่นมาเปิดร้านแทน โดยทางคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็ให้การสนับสนุนด้านอุปกรณ์ และอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ก็ให้ความกรุณาไปร่วมเปิดร้านด้วย
แต่เนื่องจากที่ตั้งร้านใหม่อยู่ห่างจากวัดร่องขุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวเดินไปไม่ค่อยถึง ยอดจำหน่ายก็ลดฮวบฮาบลง บางวันขายไม่ได้เลย และนานๆ ครั้งจะมีลูกค้าหลงไปสักครั้ง ซึ่งแม้ว่าทางโรงเรียนจะไม่ได้รับผลกระทบเพราะไม่ได้มุ่งหวังกำไร และต้นทุนต่างๆ ก็เกิดจากการสนับสนุนจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ อยู่แล้ว แต่ก็ทำให้เด็กๆ ไม่มีรายได้-ร้านก็ไม่คึกคักให้เด็กๆ ไม่มีโอกาสได้ฝึกฝีมือเหมือนเดิม
ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ใจบุญ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยววัดร่องขุ่นช่วยอุดหนุนชาและกาแฟ อาหารตามสั่ง หรือสินค้าเด็กพิเศษที่ร้านเชียงรายปัญญาฯ ด้วย เพื่อให้เด็กมีรายได้ทั้งระหว่างเรียน และเมื่อจบออกไปแล้วจะได้ไม่เป็นภาระของสังคม-ครอบครัว รวมทั้งไม่ต้องถึงขั้นไปเป็นขอทานด้วย
“หากไม่ไปหาซื้อของ หรือดื่มกาแฟ ก็ไปนั่งคุยเพื่อให้กำลังใจเด็กๆ ก็ได้ เพราะที่ผ่านมาโรงเรียนเคยทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่ขายจุดเดิมของ พมจ.ต่อทางเทศบาลฯ แล้ว แต่ได้รับแจ้งกลับมาว่า..ไม่อนุญาต จึงทำให้ร้านของเด็กๆ ต้องอยู่ด้านหลังวัดร่องขุ่นต่อไป”
ด้าน น.ส.อรัญญา วรรณทอง อายุ 22 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล กล่าวว่า ตนสามารถชงชาและกาแฟได้ เพราะได้รับการฝึกมาตั้งแต่อยู่ชั้น ม.1 แต่ที่ผ่านมาร้านค้าของเราแทบจะไม่มีคนเลย พอเห็นว่าเริ่มมีคนมาใช้บริการจำนวนมากตนก็ดีใจมาก จึงขอเชิญชวนให้มาช่วยอุดหนุนกันมากๆ ยืนยันว่าจะให้บริการเป็นอย่างดี และรสชาติชา กาแฟก็อร่อยอย่างแน่นอน
สำหรับนักเรียนของโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูลนั้น กว่า 90% เป็นคนเชียงราย และส่วนมากเป็นคนบนพื้นที่สูง ซึ่งจบการศึกษาออกไปแล้ว ก็มักจะไม่สามารถไปเรียนต่อได้เพราะมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทางโรงเรียนฯ จึงเน้นด้านการฝึกอาชีพ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดสอนกว่า 50 อาชีพเพื่อให้เด็กๆ สามารถไปประกอบอาชีพพึ่งพาตัวเองได้ และที่ผ่านมาก็พบว่าบางคนสามารถไปเปิดร้านกาแฟขายเอง บางคนแกะสลักผลไม้ได้อย่างงดงาม จนโรงแรมว่าจ้างให้ไปทำงานด้วย เป็นต้น
