นครปฐม - เริ่มบานปลาย!! หลวงพี่มือโพสต์ภาพพระมหาดื่มเบียร์ ยันยังไม่กลับวัด และเตรียมขอพบเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เพื่อขอความเป็นธรรม ด้านศิษย์สารภาพ พระที่ปรากฏในภาพให้ไปซื้อเบียร์ให้ดื่มจริง เผยเหตุใด 2 ปี ไม่ตั้งเจ้าอาวาส
จากกรณีอดีตพระมหาสมพล พระเลขาฯ เจ้าคณะอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม มีภาพหลุดเป็นภาพนั่งดื่มเบียร์ด้วยความสบายใจในกุฏิของวัดในอำเภอดอนตูม ซึ่งหลังภาพดังกล่าวถูกโพสต์ไปในโลกโซเชียล ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสมในพฤติกรรมดังกล่าว
แม้ว่าอดีตพระมหาสมพล ได้ขอลาสิกขาไปแล้ว และได้เดินทางออกจากวัดสามง่าม สถานที่ที่ได้ปรากฏในภาพ แต่สถานการณ์ในวัดกลับเริ่มมีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อพระศรีธีรวงศ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสามง่าม เจ้าคณะอำเภอดอนตูม ได้สั่งการให้ พระมานะ พระลูกวัดที่ได้นำภาพดังกล่าวไปโพสต์ในโลกโซเชียล ทำการสึกออกไปจากวัด จาก 3 ข้อกล่าวหา คือ 1.อกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ 2.ทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง 3.กล่าวโทษภิกษุให้ปาราชิกโดยไม่มีหลักฐาน
โดยตลอดทั้งวันของเมื่อวาน ได้มีพระลูกวัดได้โทร.มาตามเพื่อให้ไปทำการสึกตลอดทั้งวัน แต่พระมานะ ได้ตัดสินใจหนีออกมาจากวัด และขอพึ่งสื่อมวลชนเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยได้ขอทำการย้ายวัด แต่ทางรักษาการเจ้าอาวาสไม่เซ็นยินยอม และจะให้ทำการสึกออกไปเท่านั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับนายหลอง (นามสมมติ) ซึ่งสารภาพว่าอยู่ในเหตุการณ์เมื่อช่วงวันที่อดีตพระมหาสมพล ได้มีการดื่มเบียร์ในวัดเมื่อปลายปี 61 ที่ผ่านมา โดยบอกว่า วันนั้นตนเองได้นั่งดื่มเบียร์ภายในวัดตามปกติ แต่ได้เจอพระมหาสมพล ได้เดินมาหาแล้วให้เดินไปซื้อเบียร์มาให้ ซึ่งเหตุการณ์นั้นไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็ไม่บ่อย
โดยสารภาพว่า ตนเองเป็นคนผิดจริงเพราะเป็นคนดื่มเบียร์ในกุฏิ และขณะนี้ภาพที่ออกไปแล้วมีกระแสต่อว่าก็ยอมรับเพราะเราเป็นคนผิดเอง และไปทำให้พระเห็นแล้วเกิดความอยากกิน จริงๆ แล้ววัดนี้เป็นวัดบ้านเกิดตนเอง มีความรักอยู่แล้ว แต่กลับไปทำไม่ดีในวัด ส่วนกระแสที่มีคนบอกว่า การนำภาพมาเผยแพร่ เพราะพระไม่ถูกกันเรื่องนี้ตนเองไม่ได้รู้เรื่องด้วยว่าใครไม่ถูกกับใคร
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังพระมานะ ซึ่งบอกว่า ตั้งแต่เมื่อวานไม่ได้กลับวัดแล้ว เพราะมีความหวาดกลัวมากขึ้น แม้ก่อนที่จะมีการโพสต์ภาพลงไปนั้นก็ยอมรับอยู่แล้วว่าจะต้องมีการถูกให้ย้ายไปอยู่ที่วัดอื่น แต่ไม่คิดว่าจะถูกสั่งให้สึกออกจากความเป็นพระ โดยตัดสินใจว่าจะไม่กลับไปที่วัดอีก แต่จะไปขอพบกับเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เพื่อนำเรื่องไปเรียนชี้แจงด้วยตัวเอง และขอความเป็นธรรม เพราะตนเองไม่อยากสึก และตั้งใจจะอยู่ในผ้าเหลือง โดยตอนนี้ยังไม่สามารถหาวัดไปอยู่ใหม่ได้ เนื่องจากการย้ายวัดจะต้องมีหนังสือส่งตัวจากวัดเดิมและวัดแห่งใหม่ โดยมีลายเซ็นของเจ้าอาวาสทั้ง 2 แห่ง แต่ทางรักษาการเจ้าอาวาสไม่เซ็นยินยอมให้จึงทำให้คิดไม่ออกเกี่ยวกับเรื่องนี้
พระมานะ บอกอีกว่า เรื่องนี้อยากจะบอกว่าการที่มาบวชเพราะทดแทนบุญคุณให้พ่อแม่ที่เสียไปแล้ว และศรัทธาหลวงพ่อเต๋ และหลวงปู่แย้ม ที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงได้ขอมาจำวัดที่นี่ แต่ขณะนี้ต้องออกมาจากวัดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยในช่วงที่โซเชียลแพร่ภาพออกไปก็เครียดมากถึงแม้เราจะไม่ใช่พระที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องเสียหาย และเมื่อเรามานำเรื่องนี้มาตีแผ่ให้โยมได้รับรู้ ว่ามีเรื่องแบบนี้อยู่เพื่อไม่ให้ศาสนาเสื่อมไปมากกว่านี้ แต่ก็จะมาถูกจับสึก และไม่เคยมีความคิดว่าจะทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียง และรักวัดนี้มาก ความตั้งใจคือต้องการให้มารศาสนาที่วัดนี้ออกไป
ส่วนคำถามการไม่โพสต์ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ เพราะเมื่อแจ้งตำรวจ เรื่องก็มาถึงเจ้าคณะอำเภอดอนตูม แต่อดีตพระสมพล กลับปฏิเสธว่าไม่มีเบียร์ในขวด และจิบแค่อึกเดียว รวมถึงเป็นครั้งแรกที่กระทำ ซึ่งทางรักษาการเจ้าอาวาสได้บอกกับอาตมาว่า จะขอให้พระมหาสมพล ทำงานช่วยวัดในเรื่องการเททองหล่อพระก่อน เสร็จแล้วจะให้ออกจากวัด ซึ่งอาตมาก็ได้ยอมรับเรื่องนี้ จนถึงสิ้นปีและพระรูปนั้นได้ไปจริงก็ไม่ได้โพสต์ จากนั้นวันที่ 18 พฤษภาคม รักษาการเจ้าอาวาสกลับนำพระรูปนี้กลับมาอีก และแต่งตั้งเป็นพระเลขาด้วย ซึ่งพระรูปอื่นก็รู้แต่ไม่มีใครกล้าพูด
ส่วนที่มีผู้สงสัยว่า ทำไมไม่โพสต์ภาพนี้ ตั้งแต่ช่วงที่เกิดเหตุ เนื่องจากในช่วงนั้นได้แจ้งไปยังตำรวจ เรื่องก็มาถึงเจ้าคณะอำเภอดอนตูม แต่อดีตพระสมพล ได้ปฏิเสธว่าไม่มีเบียร์ในขวด และจิบแค่อึกเดียว รวมถึงเป็นครั้งแรกที่กระทำ ซึ่งทางรักษาการเจ้าอาวาสได้บอกกับอาตมาว่า จะขอให้พระมหาสมพล ทำงานช่วยวัดในเรื่องการเททองหล่อพระก่อน เสร็จแล้วจะให้ออกจากวัด ซึ่งอาตมาก็ได้ยอมรับเรื่องนี้ จนถึงสิ้นปี และพระรูปนั้นได้ไปจริงก็ไม่ได้โพสต์
จากนั้นเมื่อ วันที่ 18 พ.ค. รักษาการเจ้าอาวาสกลับนำพระรูปนี้กลับมาอีกและแต่งตั้งเป็นพระเลขาด้วย ซึ่งพระรูปอื่นก็รู้แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูด แต่อาตมาก็คิดว่าจะต้องทำเพื่อให้วัดเป็นวัด ที่ไม่มีมารศาสนาอยู่ จึงได้โพสต์ ลงไปและอาตมาเองก็ไม่ได้นั่งดื่มในวงนั้นตามที่เป็นข่าว แต่มีพระที่อยู่ด้วยกันได้ถ่ายแล้วนำภาพมาให้ อาตมาเป็นเพียงผู้นำมาโพสต์เท่านั้น
ส่วนกรณีทีมีกระแสข่าวว่า เกิดความขัดแย้งขึ้นเนื่องจากอาตมาไม่ได้รับการให้ออกรับกิจนิมนต์ จึงนำมาซึ่งความไม่พอใจจึงได้นำภาพกลับมาโพสต์ เพื่อแก้แค้นนั้นไม่เป็นความจริง เพราะทุกวันนี้อาตมายังออกรับกิจนิมนต์ตามปกติ และสามารถตรวจสอบได้ และไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร จึงไม่มีความจำเป็นต้องมาทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็น
“อาตมาขอให้ประชาชนทุกท่านที่ได้ดูข่าว อยากจะให้เข้าใจว่าไม่ได้จงใจทำลายพระพุทธศาสนา และวันนี้ศาสนามีเรื่องที่เป็นผลทางลบเยอะ แม้วันนี้การที่อาตมานำภาพออกมาโพสต์จะทำให้เกิดผลกระทบต่อตัวเองแต่อาตมาก็ยอม” พระมานะ กล่าวปิดท้าย
ขณะที่จากกระแสดังกล่าว ได้มีผู้ส่งเอกสารฉบับหนึ่งมาให้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกลับไปยังคณะกรรมการของวัดสามง่าม ว่า ทราบเรื่องในกรณีนี้หรือไม่ ตามใบประกาศที่ปรากฏได้ลง ระบุว่า พระศรีธีรวงศ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสามง่าม เจ้าคณะอำเภอดอนตูม ซึ่งได้รับใบประกาศเกียรติคุณ จากกระทรวงศึกษาฯ เพื่อแสดงว่า วัดสามง่าม (อรัญญิการาม) โดยพระศรีธีรวงศ์ (สมัย สจฺวโร ป.ธ.9 พธ.ม.) ได้บริจาคเงิน จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารสังฆประชาเมตตานุสรณ์ (วัดสามง่าม) ให้เป็นสมบัติของโรงเรียนวัดสามง่าม (คงทองอนุสรณ์) เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 62 ที่ผ่านมา โดยลงนามตำแหน่งผู้มอบเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสามง่าม ซึ่งตามหลักการนั้นรักษาการเจ้าอาวาสจะไม่สามารถนำเงินในส่วนของวัดออกไปใช้จ่ายได้ เพราะต้องมีการรอให้แต่งตั้งเจ้าอาวาสและมีมติจากคณะกรรมการเสียก่อน
ซึ่งแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่า เงินที่ยังคงค้างอยู่ภายในวัดมูลค่านับ 100 ล้านบาท นั้นน่าจะมีเจ้าอาวาสที่มาดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพราะนับตั้งแต่ พระครูประยุตนวการ หรือหลวงปู่แย้ม ฐานยุตฺโต เจ้าอาวาสวัดสามง่าม ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้ละสังขารไปเมื่อปี 60 นับถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 2 ปีเหตุใดยังไม่มีการตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ ซึ่ง พระศรีธีรวงศ์ นั้นเดิมเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระประโทน พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม ได้ย้ายมาจำวัดที่วัดสามง่าม ตั้งแต่นั้นมา และยังไม่ได้กลับไปจำวัดที่วัดแห่งเดิมอีกเลย
ในขณะที่กำลังเป็นประเด็นในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อพระในวัดเพื่อขอเข้าสัมภาษณ์ และสอบถามเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับรักษาการเจ้าอาวาสในประเด็นทั้งหมดแต่ไม่สามารถติดต่อได้ นับตั้งแต่มีภาพดังกล่าวปรากฏขึ้นในโซเชียล ทั้งนี้ ชาวบ้านมีความเป็นห่วงในเรื่องชื่อเสียงของวัดสามง่าม เนื่องจากเป็นวัดดังระดับประเทศที่มีอดีตเกจิชื่อดัง และเป็นวัดที่ชาวบ้านมีความศรัทธาเป็นอย่างมาก เพราะครั้งที่หลวงพ่อปู่แย้ม หรือหลวงพ่อเต๋ ยังคงอยู่ได้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอำเภอดอนตูมอย่างแท้จริง