นครสวรรค์ – พนักงานสอบสวนกองเมืองนครสวรรค์ เร่งทำสำนวนคดี“น้องชายแดน”มือเป็นระวิง ระบุหากไม่ทันขอผัดฟ้อง-ค้านประกันอีก ระบุ “กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ” ลอบเปิด-รับเด็กติวมานานหลายปี เคยมีผู้ปกครองแจ้งความร้องทุกข์ แต่ยังเปิดรับเด็กคิดค่าเรียนแพงหูฉี่ได้
วันนี้(22 มิ.ย.) พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก สภ.เมืองนครสวรรค์ ประชุมพนักงานสอบสวน คดี ด.ช.ฐปกร หรือน้องชายแดน ทรัพย์สิน อายุ 14 ปี นักเรียนชาวจังหวัดตากที่เข้าคอร์สติวแบบกินนอนกับสถาบันกวดวิชาเตรียมสอบทหาร ภายในหมู่บ้านไอซ์แลนด์ 6 อ.เมืองนครสวรรค์ แล้วได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของสถาบันกวดวิชา เตรียมทหาร “กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ” , น.ส.พีรญา พละแสน ภรรยา , น.ส.นงลักษณ์ พละ แม่ยาย โดยทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ และถูกคุมตัวฝากขังผลัดแรกต่อศาลจังหวัดนครสวรรค์ ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ตั้งแต่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สุทธินันท์ กล่าวถึงคดีนี้เพียงสั้นๆว่า เจ้าหน้าที่ทำงานคดีนี้กันตลอด 24 ชม. แต่ยังไม่ขอเปิดเผยความคืบหน้าใดๆ
ขณะที่พนักงานสอบสวน ก็เร่งทำสำนวนคดีกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทันก่อนจะครบกำหนดฝากขังผลักแรก 12 วัน แต่ยังต้องรอผลการตรวจหลักฐานทั้งที่อายัดมาจากบ้านนายณัฐพล ผู้ต้องหา ที่ตรวจพิสูจน์กว่าร้อยชิ้น ตลอดจนผลตรวจดีเอ็นเอ ในหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และต้องสอบปากคำแพทย์ที่ตรวจน้องชายแดน ก่อนเสียชีวิต-ผลการตรวจสภาพหลังเสียชีวิต ซึ่งมีแพทย์เกี่ยวข้องอีก 3 ปากด้วย ซึ่งหากไม่สามารถสรุปสำนวนได้ทันฝากขังครั้งแรกจะยื่นขอผัดฟ้องอีก และยังยืนยันจะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาเช่นเดิม
วันเดียวกันนายพิษณุ-นางสุวรรณา ทรัพย์ดี พ่อและแม่ของน้องชายแดน ได้ดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี สภ.เมืองนครสวรรค์ มีการพูดคุยในห้อง 30นาที เพื่อแลกเปลี่ยนและชี้แจงความคืบหน้าทางคดีให้ทราบโดยผู้ปกครองของน้องที่เสียชีวิตได้เล่าถึงความเจ็บปวดและเรื่องราวที่เก็บกด ซึ่งได้ทราบจากบันทึกน้องชายแดนพร้อมกับได้มอบจดหมายให้พนักงานสอบสวน เพื่อจะได้สอบสวนประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อเชื่อมโยงในคดีต่อไป
ทั้งนี้ว่ากันว่า สถาบัน “กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ” ที่กำลังตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เปิดขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตมานานหลายปี แม้ว่าจะเคยเกิดเรื่องร้องเรียนบางอย่างขึ้นมา รวมถึงเคยมีผู้ปกครองบางรายเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ก็ตาม แต่ก็ยังคงเปิดรับเด็กเข้ากวดวิชาในราคาแพงได้ กระทั่งมีชื่อเสียงโด่งดัง-ขึ้นป้ายโฆษณาใหญ่ในห้วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีเด็กนักเรียนที่เข้าคอร์สติวแล้วสอบติดเตรียมทหาร 2 ราย