ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อ้วกแทบพุ่ง! เปิดใจหนุ่มโพสต์เตือนภัยซื้อไก่ทอดร้านข้างทางหน้า รพ.นครพิงค์ กิน ฉีกดูด้านในเจอกองทัพหนอนไต่ยั้วเยี้ยน่าขยะแขยง เอาไปให้เจ้าของร้านดูกลับนิ่งเฉย แถมไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ชี้ไร้สุขอนามัยต้องปรับปรุง
หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Threerawat Chompoowong” ได้โพสต์ภาพไก่ทอดชิ้นหนึ่งที่ข้างในเต็มไปด้วยหนอนสีขาวตัวเล็กๆ จำนวนมากไต่ยั้วเยี้ย พร้อมบรรยายข้อความว่า “ถ้ากูใจหมา ร้านมึงเจ๊งอ่ะ บอกเลย แม่.. พิกัดหน้าโรงพยาบาลนครพิงค์” โดยบอกเล่าเรื่องราวไปซื้อไก่ทอดที่ร้านข้างทางแห่งหนึ่งหน้าโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ แต่ปรากฏว่าด้านในของไก่ทอดเต็มไปด้วยหนอนตัวเล็กๆ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้แชร์ต่อเป็นจำนวนมากและเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งแสดงความรู้สึกขยะแขยงแทนผู้โพสต์กับเหตุการณ์ที่ต้องประสบ
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าวคือ นายธีระวัฒน์ ชมภูวงศ์ อายุ 26 ปี พนักงานร้านโดนัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเที่ยงของวันที่ 20 มิ.ย. 62 ที่ตนไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งระหว่างรอตรวจร่างกายในช่วงบ่ายตนหิวข้าวกลางวัน จึงได้เลือกซื้อข้าวเหนียว 1 ห่อ, ไก่ทอด 1ชิ้น และไส้อั่ว 1 ชิ้น จากร้านข้างทางที่อยู่ด้านหน้าโรงพยาบาล จากนั้นนำไปนั่งรับประทานในศาลาข้างทาง แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นพบความผิดปกติของไก่ทอดชิ้นที่ซื้อมาที่มีกลิ่นเหม็นและเหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ด้านใน จึงฉีกดูข้างในและพบหนอนตัวเล็กๆ สีขาวไต่ยั้วเยี้ยอย่างน่าขยะแขยง
เมื่อพบเช่นนั้นทำให้ไม่สามารถรับประทานได้ และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ จากนั้นกลับไปที่ร้านที่ซื้อมาพร้อมวางไก่ชิ้นดังกล่าวและแจ้งให้ทางเจ้าของร้านที่เป็นผู้ชายอายุประมาณ 50 ปีทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทำให้รู้สึกผิดหวังอย่างมากและโกรธยิ่งขึ้น เนื่องจากเจ้าของร้านไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ไม่ว่าจะเป็นคำขอโทษหรือเสียใจ แถมยังทำหน้าตาเรียบเฉย แล้วหยิบไก่ทอดชิ้นดังกล่าวกลับคืนไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รวมทั้งไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น จึงนำเรื่องราวและภาพดังกล่าวโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว จากความตั้งใจเดิมที่ไม่ได้ต้องการจะโพสต์เอาเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น จึงถ่ายภาพไว้เพียงภาพเดียว และไม่ได้บันทึกคลิปวิดีโอไว้
สำหรับการโพสต์เรื่องราวครั้งนี้นั้น นายธีระวัฒน์บอกว่าไม่มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงหรือการทำมาหากินของร้านดังกล่าว เพียงแต่ต้องการจะเตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนทั่วไป รวมทั้งหวังว่าหากเจ้าของร้านได้ทราบเรื่องราวนี้แล้วจะปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานความสะอาดและสุขอนามัยของทางร้านให้ดีขึ้น เพราะเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของร้านอาหารที่เจ้าของร้านจะต้องใส่ใจอย่างยิ่ง โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ที่ตนต้องพบเจอนั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกกับร้านนี้ ซึ่งสาเหตุจะมาจากอะไรนั้นไม่สามารถบอกได้ แต่หวังว่าเหตุการณ์ที่ตนต้องพบเจอจะเป็นครั้งสุดท้าย
