ศรีสะเกษ - เปิดใจพ่อแม่เจ้าของโพสต์ว่อนเน็ต ถูกลูกชายวางยาฆ่าแมลงใส่โอ่งน้ำหวังฆ่าพ่อแม่ให้ตายทั้งบ้าน เหตุแค่พ่อถอดปลั๊ก Wi-Fi ไม่ให้เล่นเกม แม่เผยเห็นกับตาเป็นฝีมือของลูกแต่ไม่ติดใจเอาความเพราะลูกคือลูก เพื่อนบ้านระบุเมาดุร้ายมาก
วันนี้ (17 มิ.ย.) จากกรณีที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ว่า แม่สุดทนต่อพฤติกรรมของลูกชายที่ใส่ยาฆ่าแมลงในโอ่งน้ำ หวังฆ่าพ่อแม่ให้ตายทั้งบ้านเพียงแค่ผู้เป็นพ่อถอดปลั๊กสัญญาณ Wi-Fi ไม่ให้เล่นเกมกลางดึกเท่านั้นเพราะเสียงดังรบกวนเวลาพักผ่อนของพ่อแม่ที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 124 บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อไปถึงได้พบกับ นางสุบัญ ดวงจันทร์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น และพบนายจักรี คำเรือง อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของคนที่ก่อเหตุ
โดยนางสุบัญได้นำผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบริเวณโอ่งน้ำข้างบ้านจำนวน 2 ใบ โดยโอ่งทั้ง 2 ใบมีเศษของยาฟูราดาน ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงลอยอยู่ในน้ำและมีเศษยาฆ่าแมลงตกอยู่ที่พื้น ส่วนโอ่งน้ำอีก 1 ใบถูกคว่ำเทน้ำออก แต่ยังมีเศษยาฆ่าแมลงอยู่ที่ขอบโอ่ง
นางสุบัญเล่าว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายตุ๊ด (ขอปกปิดชื่อจริง) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของตนที่เกิดกับสามีเก่าและเป็นลูกเลี้ยงของสามีใหม่ของตน ได้ดื่มสุราเมามายกลับมาบ้าน และได้ไปพักผ่อนอยู่ที่กระท่อมที่สร้างอยู่หลังบ้าน จากนั้นนายตุ๊ดได้เล่นเกมออนไลน์ทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนายตุ๊ดได้เล่นเกมและส่งเสียงเชียร์เสียงดังมากด้วยความเมาสุรา ทำให้ตนและคนภายในบ้านไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้ เนื่องจากบ้านอยู่ห่างจากกระท่อมของนายตุ๊ดประมาณ 10 เมตรเท่านั้น อีกทั้งเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ไม่ได้หลับได้นอน
ดังนั้น นายจักรีจึงได้ไปถอดปลั๊กสัญญาณ Wi-Fi ที่อยู่ในบ้านออก ทำให้นายตุ๊ดโมโหได้มาทุบฝาบ้านหลายครั้ง นายจักรีจึงได้ออกไปต่อว่านายตุ๊ด และเกิดการโต้เถียงกัน โดยนายจักรีได้ใช้กำปั้นชกไปที่ใบหน้าและบริเวณหัวไหล่ของนายตุ๊ด 2-3 ครั้ง ทำให้นายตุ๊ดเงียบลง จากนั้นเวลาประมาณ 03.00 น. ตนได้ยินเสียงคนเดินข้างบ้าน จึงได้ลุกขึ้นมาดูที่ประตู จากแสงไฟข้างบ้านทำให้เห็นนายตุ๊ดเดินเลาะมาข้างบ้านไปที่โอ่งน้ำ และได้นำเอาวัสดุบางอย่างโรยลงในโอ่งน้ำ ตนได้แอบดูและพบว่านายตุ๊ดได้ล้มโอ่งน้ำจำนวน 1 ใบ เทน้ำออก ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร
นางสุบัญเล่าต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นตนไม่กล้าที่จะออกมาดูว่านายตุ๊ดใส่อะไรลงไปในน้ำ เนื่องจากก่อนหน้านี้นายตุ๊ดเคยเมาสุราแล้วใช้อาวุธมีดไล่แทงตน รวมทั้งตาและยายซึ่งเป็นพ่อและแม่ของตนที่เคยพักอาศัยอยู่ด้วยกันมาแล้วหลายครั้ง ทำให้ตาและยายต้องย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นเพราะความกลัวหลานชายคนนี้เมาสุราแล้วเข้ามาทำร้าย ซึ่งพอรุ่งเช้าจึงได้เข้าไปตรวจสอบดูที่โอ่งน้ำ พบว่าเป็นยาฆ่าแมลง ชาวบ้านเรียกว่า ยาฟูราดาน ลอยอยู่ในน้ำและหล่นอยู่กับพื้น จึงได้แจ้งให้นายจักรีทราบ เมื่อไปตรวจสอบที่กระท่อมของนายตุ๊ดไม่พบว่าอยู่ที่กระท่อม ซึ่งจะเป็นเช่นนี้ประจำ หากนายตุ๊ดรู้ตัวเองว่าทำผิดจะหลบหนีไป จะกลับเข้ามาช่วงดึกๆ และออกไปช่วงเช้าตรู่ทุกวันเพื่อหลบหน้าทุกคนในบ้าน
ตนไม่ได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากเห็นว่าลูกก็คือลูก แม้ว่าจะทำผิดอย่างไร พ่อและแม่ก็พร้อมให้อภัย หากไปแจ้งความตำรวจจะต้องจับไปดำเนินคดี จะทำให้นายตุ๊ดไม่สามารถออกไปทำงานที่ไหนได้หากติดคุก ตนจึงได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์เพื่อหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือ และได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.กันทรลักษ์ และปลัดอำเภอกันทรลักษ์เข้ามาดูแลตรวจสอบในเรื่องนี้แล้วเพื่อพิจารณาหาทางให้การช่วยเหลือต่อไป
ขณะนี้ตนและสามีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของนายตุ๊ดยอมรับว่ามีความหวาดกลัว เกรงว่านายตุ๊ดจะเข้ามาทำร้าย เนื่องจากนายตุ๊ดเคยบอกว่าจะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน เพราะนายตุ๊ดเวลาเมาสุราจะมีอารมณ์ดุร้ายมาก และเคยติดยาเสพติดมาก่อนด้วย
นางสุบัญเล่าอีกว่า ตนเคยถามนายตุ๊ดว่าเพราะเหตุใดจึงใส่ยาฆ่าแมลงลงไปในโอ่งน้ำ นายตุ๊ดยอมรับว่าใส่ยาฆ่าแมลงลงไปในโอ่งน้ำจริงเพราะต้องการฆ่าตนและสามี เนื่องจากนายจักรีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงไปทำร้ายชกต่อยนายตุ๊ดก่อน จึงหวังที่จะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม ตนและสามียืนยันว่าไม่ติดใจเอาความนายตุ๊ดลูกชายของตนแต่อย่างใด
นายจักรี คำเรือง อายุ 52 ปี พ่อเลี้ยงของนายตุ๊ด กล่าวว่า แม้จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแบบนี้ ตนได้พูดคุยกับนางสุบัญแล้วขอว่าไม่ให้มีเรื่องมีราว เพราะถึงอย่างไรก็เป็นลูก หากแจ้งตำรวจนายตุ๊ดจะเสียอนาคต ติดคุกติดตะราง ไม่สามารถออกมาทำงานได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป ในช่วงนี้ทำได้เพียงระมัดระวังไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายต่างๆ เกิดขึ้นมาได้อีก ซึ่งคาดว่านายตุ๊ดคงจะคิดได้ว่าไม่มีใครจะรักนายตุ๊ดเท่ากับคนในครอบครัวของนายตุ๊ดเอง
ทุกวันนี้ตนเหน็ดเหนื่อยมากกับการทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว โดยต้องไปทำงานรับจ้างที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งที่บ้านภูมิซรอล และจะทำผ้าเช็ดเท้าขายด้วยเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว โดยเงินทั้งหมดที่หามาได้จะให้นางสุบัญ ซึ่งเป็นแม่บ้านเก็บทั้งหมดเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว
นางสุดากรณ์ ขวาวงษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ปกติแล้วนายตุ๊ดจะมีอาชีพรับจ้างทำงานทั่วไป ทั้งกรีดยาง ทำงานก่อสร้างและงานต่างๆ ตามแต่จะมีคนว่าจ้าง เมื่อได้เงินมาแล้วจะนำไปซื้อเหล้าดื่มกับเพื่อนในกลุ่มของนายตุ๊ด และส่งเสียงดังเมื่อมีการดื่มสุรา แต่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน การที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคาดว่าเกิดจากนายตุ๊ดต้องการเรียกร้องความสนใจเพราะขาดความอบอุ่นในครอบครัว อีกทั้งเป็นคนหนุ่ม อาจขาดอารมณ์ยั้งคิดไปได้ชั่วขณะ แต่ปกติแล้วนายตุ๊ดจะเป็นคนขยันทำงานหาเงิน แต่เมื่อดื่มเหล้าจะมีอารมณ์ดุร้ายเท่านั้น ขอฝากไปถึงนายตุ๊ดว่าขอให้แก้ไขนิสัยของตัวเอง เพื่อให้สามารถอยู่ในสังคมบ้านโนนเจริญได้อย่างมีความสุขต่อไป