xs
xsm
sm
md
lg

พลิกปูมคดีเขาไม้แก้ว-สั่งเก็บกำนันยูร กงกรรม “กำนันเป๊าะ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตามส่องที่มาที่ไป 2 คดีกงกรรม “กำนันเป๊าะ” ทั้งปมทุจริตที่ดินฝังกลบขยะเขาไม้แก้ว-สังหาร “กำนันยูร” อดีตผู้ทรงอิทธิพลแถวหน้าของเมืองชล

“คดีทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว” หรือคดีทุจริตในการจัดซื้อที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่ฝังกลบขยะของเมืองพัทยา จำนวน 140 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ “กำนันเป๊าะ” ต้องเผชิญในช่วงปลายของชีวิต เริ่มขึ้นเมื่อปี 2536 เทศบาลเมืองพัทยา มีโครงการจัดหาที่ดินเพื่อใช้เป็นที่กลบฝังขยะ

แต่ต่อมากลับเกิดปัญหาขึ้น เมื่อมีผู้ร้องเรียนว่า ที่ดินผืนดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมีหลักฐานว่าผู้ครอบครองที่ดินรู้เรื่องดียู่แล้ว เนื่องจากกรมที่ดิน และสำนักงานที่ดิน จ.ชลบุรี เคยมีหนังสือเพิกถอนสิทธิไปก่อนหน้านั้น แต่ยังฝ่าฝืนและทำสัญญาซื้อขายกับทางเทศบาลเมืองพัทยา ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบข้อมูลที่เพิ่มน้ำหนักว่าเกิดการทุจริตขึ้นอย่างมโหฬาร เพราะมีหลักฐานว่า “พีระ ศิลรัตน์” ซื้อที่ดินแปลงนี้มาเมื่อปี 2535 ในราคาเพียงไร่ละ 50,000 บาท โดยที่ทั้งผู้ซื้อผู้ขายลงชื่อยอมรับเองว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ

กรณีดังกล่าวกลายเป็นเงื่อนปมความผิดปกติ ทั้งเรื่องที่ดินในเขตป่าสงวนฯ และราคาขายที่พุ่งขึ้นมากกว่า 10 เท่าในระยะเวลาเพียงปีเดียว ทำให้ต้องมีการสืบสวนเชิงลึก ภายใต้การนำของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” เมื่อสมัยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ (ทำหน้าที่ผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจภาค 2) ที่สืบทราบว่า “พีระ ศิลรัตน์” ผู้ขายที่ดินให้เมืองพัทยา ทำงานเป็นคนสวนอยู่ในบ้าน “กำนันเป๊าะ” นั่นเอง

เรื่องราวจึงโยงใยเชื่อมต่อมาถึงตัว “เจ้าพ่อภาคตะวันออก” จนทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุก แต่ “กำนันเป๊าะ” หลบหนีไปตั้งแต่ก่อนที่ศาลฎีกาจะพิพากษา เมื่อวันที่ 10 พ.ค.50

ส่วนคดีจ้างวานฆ่า “กำนันยูร - ประยูร สิทธิโชติ” ผู้ทรงอิทธิพลร่วมเมืองชลบุรี ซึ่งความผิดคนละส่วนกับคดีที่ “กำนันยูร” ถูกสังหารเสียชีวิต เนื่องจากได้มีการวางแผนและจ้างวานให้สังหาร “กำนันยูร” มาเป็นระยะเวลาพอสมควร และด้วยความร้อนใจของผู้จ้างวาน จึงได้ติดต่อมือปืนหลายชุด จนสุดท้ายก็สามารถปลิดชีพ “กำนันยูร” ได้ตามแผน

ว่ากันว่าเรื่องนี้มีผู้รู้เห็นมากเกินไป จนถึงหูตำรวจ และแกะรอยมือปืนต้องสงสัยหลายชุด ซึ่งมีการสอบสวนจนมีมือปืนชุดหนึ่งสารภาพและซัดทอดว่า “กำนันเป๊าะ” กับ “ส.ท.เหี่ยว - ภาสกร หอมหวล” คนสนิท ว่าเคยติดต่อให้สังหาร “กำนันยูร” แต่ถูกมือปืนชุดอื่นลงมือเสียก่อน

โดยปมความขัดแย้งจนถึงแตกหักของ “สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองชล” เริ่มมาจากการขัดผลประโยชน์และมีการล้างแค้นระหว่างคนสนิทของ “สองผู้ยิ่งใหญ่” ทั้งการตายของ “ยุทธเป๋ - ประยุทธ สิทธิโชติ” ที่เป็นหลาน “กำนันยูร” เมื่อช่วงปี 2543 ซึ่งเกี่ยวโยงมาถึงการถูกยิงเสียชีวิต “พ.ต.ท.ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์” รอง ผกก.5 บก.อก.ภาค 2 นายตำรวจคนสนิทของ “กำนันเป๊าะ” เมื่อปี 2545

กระทั่งวันที่ 9 มี.ค.46 “กำนันยูร” มีภารกิจสำคัญต้องไปร่วมงานเลี้ยงแต่งงานลูกสาวคหบดีชื่อดังที่เป็นเพื่อนสนิทกัน และเห็นว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดเดินทางมาจำนวนมาก รวมไปถึง “สนธยา คุณปลื้ม” ลูกชายกำนันเป๊าะ และเป็น ส.ส.ชลบุรี (ขณะนั้น) แต่ระหว่างงานเลี้ยงโต๊ะจีน มือปืนก็บุกเข้ามารัวกระสุนใส่ “กำนันยูร” สิ้นใจต่อหน้าแขกเหรื่อจำนวนมาก

ซึ่งปรากฏอยู่ในคำพิพากษาของศาลที่ระบุว่า “พยานโจทก์ทั้งสามปาก คือ นายธนาวุฒิ หรือติ เกิดเกียรติกุล นายพสิษฐ์ หรือคิด แตงตุ้มรุ่งโรจน์ และนายธนาพล หรือเจี๊ยบ บุญศรีอุทัย เบิกความสอดคล้องต้องกันว่า ได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 1 (กำนันเป๊าะ) ให้ไปฆ่านายประยูร เนื่องจากจำเลยที่ 1 ไม่พอใจเรื่องที่ พ.ต.ท.ไชยันต์ ลูกน้องคนสนิทถูกยิงตาย

กำนันเป๊าะ เกรงว่านายประยูร จะจ้างคนมายิงเอาคืน จึงว่าจ้างนายธนาวุฒิ กับพวกเป็นเงิน 3 ล้านบาท วางแผนฆ่าผู้ตายเสียก่อน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ต.ค.45 ในงานพิธีเปิดอู่ซ่อมรถของนายพสิษฐ์ ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ย.45 ขณะนายประยูรพร้อมคณะ เดินทางไปทอดกฐินที่จังหวัดสระบุรี ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.45 ในงานปีใหม่ที่ตำบลเสม็ด นายธนาวุฒิ ติดต่อให้ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา และ ส.อ.สมชาย บุนนาค เป็นผู้ลงมือ ครั้งที่ 4 วันที่ 16 ม.ค.46 ที่มหาวิทยาลัยบูรพา ทั้งนี้ การวางแผนฆ่านายประยูร ทั้ง 4 ครั้งไม่สำเร็จ เนื่องจากนายประยูรระมัดระวังตัว

กระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค.46 นายธนาวุฒิ กับพวก เตรียมวางแผนฆ่านายประยูรอีกครั้ง ในงานแต่งงานที่ร้านไพรเวชค้าวัสดุ แต่ปรากฏว่า จ.ส.อ.ประดิษฐ์ คนใกล้ชิดจำเลยที่ 1 แจ้งว่า จำเลยที่ 1 สั่งระงับแผนฆ่าเนื่องจากมีข่าวรั่วไหล ทั้งนี้บันทึกคำให้การของนายธนาวุฒิ และนายพสิษฐ์ ปรากฏว่าเคยให้การไว้หลายครั้ง และยืนยันมาตลอดว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ใช้จ้างวานฆ่าผู้ตาย”

คำให้การข้างต้นเป็นการมัดตัว “กำนันเป๊าะ - ส.ท.เหี่ยว” ให้ตกเป็นจำเลยคดีจ้างวานฆ่า “กำนันยูร” ทำให้หลังเกิดเหตุไม่นานตำรวจก็พบหลักฐานเชื่อมโยงและออกหมายจับ “กำนันเป๊าะ”


กำลังโหลดความคิดเห็น