ศูนย์ข่าวศรีราชา - แม่วัย 21 ปี ร้องสื่อฯ-บุก สนง.สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ขอความเป็นธรรมเหตุลูกในครรภ์เสียชีวิตเพราะถูกพยาบาล รพ.แห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง ปฏิเสธรับตัวทำคลอดทั้งที่ปากมดลูกเปิด ซ้ำให้ขี่ จยย.ไปรักษาที่ รพ.อีกแห่ง ยันเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.จินดารัตน์ อินทรสิงห์ อายุ 21 ปี และนายบอย คงกระพันธ์ อายุ 25 ปี ว่าติดใจเรื่องการรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากที่ตนเองเกิดอาการปวดท้องใกล้คลอดจนสามีต้องนำส่งรักษาดังกล่าว เนื่องจากได้ฝากครรภ์ไว้แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฯ ปฏิเสธการรับตัว โดยอ้างว่าลูกในครรภ์มีอายุเพียง 33 สัปดาห์ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงเนื่องจากยังไม่ครบกำหนดคลอดและยังต้องใช้ตู้อบสำหรับเด็ก ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ มีไม่เพียงพอประกอบกับปากช่องคลอดยังไม่พร้อม จึงต้องนอนรอรักษา ทั้งที่ตนเองรู้สึกเจ็บท้องและมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดแล้ว
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฯ ยังแจ้งว่าจะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จฯ พระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาและจะทำใบส่งตัวให้ แต่สุดท้ายกลับไม่จัดรถไปส่ง ซ้ำยังให้สามีของตนเองขี่รถจักรยานยนต์พาไปยังโรงพยาบาลใน อ.ศรีราชา จนทำให้บุตรในครรภ์เสียชีวิต โดยได้รับแจ้งจากแพทย์ของโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์เพียงว่าสาเหตุเพราะเลือดในน้ำคร่ำไหลออกเกิน 40 เปอร์เซ็นต์จนทำเด็กขาดออกซิเจน และแพทย์ยังแนะนำไม่ให้มีบุตรอีกเนื่องจากมีความดันสูงและครรภ์เป็นพิษ จึงทำให้รู้สึกติดใจเป็นอย่างมากว่าเพราะเหตุใดโรงพยาบาลแห่งนี้จึงไม่จัดรถส่งตัวตนเองไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งนั้น
ในวันนี้ (12 มิ.ย.) น.ส.จินดารัตน์ และสามีได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ นายแพทย์อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการนำพิสูจน์ถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของบุตรในครรภ์ และเพื่อใช้ประกอบสำนวนในการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยหวังว่าจะมีตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และพยาบาลโรงพยาบาลใน อ.บางละมุง รวมทั้งการรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเข้าพบนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ของ น.ส.จินดารัตน์ อินทรสิงห์ ในครั้งนี้มีเพียงเจ้าหน้าที่ของสำนักงานออกมาชี้แจงว่า นายแพทย์อภิรัต ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วและได้ประสานไปยังผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว
ขณะที่ น.ส.จินดารัตน์ เผยว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตนเองตั้งใจที่จะมีลูกคนที่ 2 ซึ่งผลอัลตร้าซาวด์ขณะตั้งท้องได้ 5 เดือนก็พบว่าลูกในท้องยังแข็งแรงดี จึงรู้สึกข้องใจว่าหากได้รับการดูแลจากแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลเป็นอย่างดีลูกในท้องคงไม่ต้องเสียชีวิต เนื่องจากขณะนั้นปากมดลูกเปิดแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการทำคลอดหรือเพราะเห็นว่าตนเองและสามีไม่มีเงิน
“ วันนี้ต้องมาร้องขอความเป็นธรรมเพราะทางครอบครัวได้ฝากแช่ศพลูกไว้ที่โรงพยาบาลใน อ.บางละมุง และจะขอยืนยันว่าจะไม่มีการเผาศพ หากพยาบาลคนที่ปฏิเสธการรับตัวไม่ออกมาไหว้ขอขมาศพลูกชาย”น.ส.จินดารัตน์ กล่าว
