อุทัยธานี - อดีตชาวนาลานสักหนีแล้งทำสวน ๙ ตามรอยพ่อ ปลูกกล้วย-ทอดกล้วยฉาบ ติดแบรนด์-ขึ้นทำเนียบ OTOP ขายดิบขายดีกำไรวันละเป็นพัน
หากไล่เรียงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของอุทัยธานี ต้องมีชื่อ “กล้วยฉาบหลากรส-สวน ๙ ตามรอยพ่อ” เป็นหนึ่งใน OTOP แถวหน้าด้วย เพราะนอกจากจะขายดิบขายดีเพราะรสชาติที่ลูกค้าติดใจแล้ว ยังมีเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีแห่งความพอเพียง
นายชะลอ พันการัก อายุ 55 ปี และนางดวงจันทร์ จันเฮ้า อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/1 หมู่ที่ 6 ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี สองสามีภรรยาที่ผันตัวจากอาชีพทำนา มาทำอาชีพพ่อค้า-แม่ค้าขายกล้วยฉาบ จนกลายเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ “กล้วยฉาบหลากรส OTOP ลานสัก อุทัยธานี” บอกว่า ก่อนที่จะมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายกล้วยฉาบ เดิมทีมีอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเจอกับความแห้งแล้งอย่างต่อเนื่องจนขาดทุนมาตลอด จึงคิดทำอาชีพเสริมด้วยการทำสวนกล้วยน้ำว้าในเนื้อที่ 3 ไร่
หลังลงมือปลูกกล้วยไปแล้ว นางดวงจันทร์ได้ฝันถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงตัดสินใจตั้งชื่อสวนว่า สวน ๙ ตามรอยพ่อ ซึ่งปีแรกๆ นั้นกล้วยก็ได้ผลผลิตดีขายได้ผลกำไร แต่ต่อมามีคนทำสวนกล้วยกันมากขึ้น ทำให้สินค้าล้นตลาด ราคาของกล้วยถูกลง จึงพากันคิดว่าจะแปรรูปกล้วยเพื่อเพิ่มมูลค่าแทน
โดยได้ทดลองทอดกล้วยฉาบ ซึ่งลองผิดลองถูกจนได้สูตรเป็นของตัวเอง จึงไปตั้งร้านทอดกล้วยฉาบขายที่หน้า ธ.ก.ส.สาขา อ.ลานสัก และที่โรงพยาบาลลานสัก ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา โดยขายที่หน้า ธ.ก.ส.ทุกวันพฤหัสบดี และที่โรงพยาบาลลานสักทุกวันศุกร์ ส่วนวันอื่นก็จะทอดขายตามตลาดนัด และออกบูทในงานต่างๆ ของจังหวัด รวมทั้งยังมีทอดติดแบรนด์ “กล้วยฉาบสวน ๙ ตามรอยพ่อ” ขายส่งร้านค้าโชวห่วย ร้านค้าตามหมู่บ้านด้วย
“ตลอด 7 ปีมานี้ถือว่าอาชีพทอดกล้วยฉาบขายสามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี มีรายได้ประจำหักต้นทุนแล้วจะเหลือกำไรวันละกว่า 1 พันบาท ส่วนนาข้าวก็จะปลูกแค่พอกินในครอบครัวเท่านั้น”
สำหรับการทอดกล้วยฉาบนั้น นายชะลอ-นางดวงจันทร์บอกว่า จะให้ความสำคัญทั้งความสะอาด ถูกหลักอนามัย และพิถีพิถันกับการทอดให้เหลืองและกรอบ โดยฝานกล้วยน้ำว้าด้วยมีดสไลซ์ ทอดด้วยน้ำมันพืชร้อนๆ ประมาณ 3-5 นาที ใส่ใบเตยลงกระทะเพิ่มความหอม ถ้าเป็นรสออริจินัลเมื่อสะเด็ดน้ำมันก็ขายได้ทันที แต่ถ้าต้องการรสอื่นๆ ก็มีทั้ง รสหวาน รสเค็ม รสปาปริกา และบาร์บีคิว บรรจุใส่ถุงติดแบรนด์ขายถุงละ 20 บาท
